ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ประธานชมรมแพทย์ชนบท เผยในนามตัวแทนรพ.ทั่วประเทศ ถาม สปสช. สาเหตุดองงบประมาณปี 64 ไปไม่ถึงโรงพยาบาลทั่วประเทศ ทำให้รับงบฯช้าอย่างน้อย 1 เดือน หลายแห่งเริ่มขาดสภาพคล่อง โอทีสะดุด!

นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.รพ.จะนะ จ.สงขลา และประธานชมรมแพทย์ชนบท โพสต์เฟซบุ๊กนพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ระบุถึงงบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของ สปสช. ดังนี้

เสียงสะท้อนจากหลายโรงพยาบาล​: ดองงบโดยไม่สมเหตุสมผล​ ส่งผลลบต่อเครดิตรัฐมนตรีอนุทินและรัฐบาลนะครับ​

งบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ของสปสช.ปี 2564 ถูกที่ปรึกษา​ รมต.สกัดหัวตุง ทำให้โรงพยาบาลทั่วประเทศได้รับเงินงบประมาณล่าช้าไปอย่างน้อย 1 เดือนแล้ว​ หลายโรงพยาบาลเริ่มบ่นเรื่องขาดสภาพคล่อง​ โอทีเริ่มสะดุด​ ทั้งๆที่ปีที่ผ่านๆมา​พอต้นตุลาคมทุกโรงพยาบาลก็จะได้รับเงินจัดสรรงวดแรกเสมอมา​ แต่ปีนี้เงินงบประมาณไม่มาตามนัด

ทั้งนี้เป็นเพราะที่ปรึกษากฎหมายของรัฐมนตรีอนุทิน  ......มีทัศนะที่แปลกๆและตีความระเบียบอย่างไม่เข้าใจ แถมยังยืนยันให้รัฐมนตรีไม่ลงนามในประกาศ​ รัฐมนตรีอนุทินก็กล้าๆกลัวๆ​ เลยดองเรื่องเอาไว้

ทราบว่าในวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน 2563 นี้จะมีการประชุมบอร์ดสปสช.​ ชมรมแพทย์ชนบทในนามของตัวแทนโรงพยาบาลทั่วประเทศหวังเป็นอย่างยิ่งว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขให้ลุล่วงเพื่อให้งบประมาณที่ล่าช้าไปของปี 64 นั้น​ จะมีมติให้โอนให้กับโรงพยาบาลต่างๆโดยเร็ว

ด้าน นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามโพสต์ข้างต้นคือโดยปกติ ช่วงต้นเดือน ต.ค. งบประมาณต้องจัดสรรมาแล้ว แต่ปีนี้ที่ปรึกษารัฐมนตรีเสนอไม่ให้ลงนาม ดังนั้นต้องไปถามผู้หลักผู้ใหญ่ว่าทำไมถึงมีความเห็นเช่นนี้ เพราะที่ผ่านมารัฐมนตรีก็ลงนามมาโดยตลอด และปีนี้กติกาต่างๆ ก็เหมือนเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร

"พอจะทราบว่ามีทัศนะในการตีความตามกฎหมายที่ต่างกันของที่ปรึกษาฯ ซึ่งเราเห็นรายละเอียดการตีความแล้วรู้สึกว่าการตีความแบบนี้ไม่ถูกและเกินกว่าเหตุ สรุปคือโดยหลักเกณฑ์ก็เป็นแบบนี้ทุกปีอยู่แล้ว ปีนี้ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรเป็นพิเศษ" นพ.สุภัทร กล่าว

นพ.สุภัทร กล่าวด้วยว่า ไม่ว่าจะตีความอย่างไรก็แล้วแต่ ควรโอนเงินงบประมาณงวดที่ 1 มาให้โรงพยาบาลก่อนเพราะสภาพคล่องในโรงพยายาบาลหลายๆ แห่งก็ไม่ได้ดีอะไร โรงพยาบาลที่รวยก็ไม่เป็นไร แต่ยังมีโรงพยาบาลที่ลำบาก ผลคือทำให้โรงพยาบาลขาดสภาพคล่อง และยิ่งถ้าภายในเดือน พ.ย.นี้ คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไม่มีมติที่ชัดเจน การจัดสรรเงินต้องชะลอไปอีกเดือน อาจจะกลายเป็น 2-3 เดือน ซึ่งไม่ยุติธรรมกับการจัดบริการของโรงพยาบาล

"หนี้สินค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ ยังพอค้างได้ แต่ค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ โอที เงินเดือนลูกจ้าง ค่าใช้จ่ายรายวัน ค่าซ่อมบำรุงสารพัดก็เป็นภาระที่ต้องจ่ายทุกเดือน ดังนั้นก็ต้องรอดูวันที่ 5 พ.ย. 2563 นี้ว่าคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะหาทางออกร่วมกันได้หรือไม่ ถ้ามีมติชัดเจนก็จะได้จบโดยสมานฉันท์" นพ.สุภัทร กล่าว

 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง