ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองปลัดสธ. นั่งประธานประชุมวิชาชีพสาธารณสุข เชิญผู้แทนชมรมในกระทรวงฯ ร่วมรับฟังการบรรจุข้าราชการทั้งหมด ทั้งรุ่นโควิด -กลุ่มตกหล่น เผยหลังบรรจุรอบ 3 ช่วงธ.ค. จะเริ่มชัดเจนบรรจุกลุ่มตกหล่นอย่างไร ย้ำยังคงต้องยืนพื้น 24 สายงาน

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รักษาราชการรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมวิชาชีพสาธารณสุขครั้งที่ 1/2563 ว่า ในการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมวิชาชีพต่างๆที่ทำงานในกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจริงๆมีประมาณ 40 กว่าชมรม แต่ที่มาประชุมร่วมและนำเสนอข้อมูลต่างๆ 21 ชมรม โดยการประชุมมีอยู่ 2 ส่วน คือ 1.ชี้แจงชมรมต่างๆ ให้เข้าใจการดำเนินงานและการบริหารจัดการกำลังคนด้านสาธารณสุข ทั้งการบรรจุโควิด-19 หรือเรื่องอื่นๆ ซึ่งเป็นทั้งของส่วนกองบริหารบุคคลนำเสนอเรื่องการบริหารกำลังคน และอีกส่วนเป็นกองยุทธศาสตร์และแผนงานนำเสนอเรื่องค่าตอบแทน ซึ่งในส่วนนี้เป็นการชี้แจงถึงการทำงานของ สธ. เพื่อให้ชมรมต่างๆ ไปขยายผลในการสื่อสารให้สมาชิกรับทราบ

“ และ 2. ในการประชุมครั้งนี้เป็นการเปิดรังฟังปัญหา อุปสรรค และความต้องการของวิชาชีพต่างๆ โดยกระทรวงฯจะนำข้อเสนอต่างๆของเขามารวม และมาพิจารณาว่า เราจะสามารถนำไปแก้ไข ในระดับใด บางอย่างก็แก้ไขได้ในระดับกระทรวงสาธารณสุข แต่บางอย่างก็ต้องนอกเหนือจากนั้น คือ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือก.พ. “ นพ.สุระ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกลุ่มตกหล่นจะมีการดำเนินการอย่างไร นพ.สุระ กล่าวว่า วันนี้มีการพูดคุยประเด็นดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งจะมีกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ใน 24 สายงานที่ครม.เห็นชอบ ซึ่งต้องเรียนว่า ในการบรรจุข้าราชการรุ่นโควิด-19 นั้น เมื่อทำขาขึ้นเสนอไปยัง ครม. มี 24 สายงานจำนวนรวมกว่า 4 หมื่นอัตรา ซึ่งครม.เห็นชอบตามนั้นว่ามีความจำเป็นในจำนวนนี้ เมื่อขาลงก็ต้องบรรจุตามที่ขอ คือ 24 สายงานเช่นเดิม เพียงแต่อัตราอาจปรับเกลี่ยได้บ้าง แต่เบื้องต้นต้องตรึงอัตราขาขึ้นและขาลงให้ตรงกัน ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นขัดมติครม. ซึ่งเป็นความผิดกฎหมาย จึงต้องเป็นตัวเลขกว่า 4 หมื่นอัตรา

“ส่วนตัวเลขที่มีบางคนลาออกระหว่างทาง คือ เดิมเราสำรวจตัวเลขก่อนวันที่ 15 มีนาคม ซึ่งเสนอครม.ไป แต่หลังจาก 15 มีนาคม กว่าจะบรรจุรอบแรกในเดือนสิงหาคม มีบางคนไปบรรจุข้าราชการที่อื่นก่อน จึงทำให้มีตำแหน่งเหลือส่วนหนึ่ง ก็ต้องเอามาบริหารจัดการ ซึ่งต้องเข้า อ.ก.พ.สธ. อีกชั้นหนึ่งว่าจะบริหารอย่างไร โดยกองบริหารบุคคลจะทำข้อมูลขึ้นมา และอีกส่วนหนึ่งที่ตำแหน่งคุณวุฒิไม่ตรงกับบรรจุ ก็กำลังแก้ปัญหาอยู่ ส่วนสายอื่นๆ ที่ไม่ใช่ 24 สายงาน ก็ต้องไปดูตำแหน่งว่าง ทั้งสายบริการ สายสนับสนุน ซึ่งก็ทำอยู่ทุกปี” นพ.สุระ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าสรุปตัวเลขจากการบรรจุรอบ 1 และรอบ 2 ที่มีตำแหน่งอยู่กว่า 2 พันอัตราใช่หรือไม่ นพ.สุระ กล่าวว่า ใช่ แต่ต้องรอบรรจุรอบ 3 อีก ซึ่งมีการกำหนดไว้กว่า 7 พันอัตรา ต้องมาดูว่า จะมีตำแหน่งว่าง และเป็นตำแหน่งที่มีปัญหาอย่างไร ทั้งนี้ ต้องรอหลังการบรรจุรอบ 3 ให้เสร็จก่อน คาดว่าน่าจะมีความชัดเจนเดือนธันวาคม 2563 เกี่ยวกับตัวเลขทั้งหมด และแนวทางช่วยเหลือกลุ่มตกหล่นอย่างไรต่อไป  ทั้งนี้  ในกลุ่มนี้ต้องอยู่ใน 24 สายงานเป็นหลัก

“ขอย้ำว่า 24 สายงานเป็นมติครม. และเป็นการบรรจุที่ไม่ต้องสอบแข่งขัน ซึ่งนอกเหนือจาก 24 สายงานต้องรอตำแหน่งว่าง และการบรรจุต้องเป็นไปตามกฎก.พ. อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่สอบผ่านภาค ก.แล้ว และกำลังรอเรียกตัว หากทำโควิดด้วย และถูกเรียกอยู่ในรุ่นโควิดก็ได้ทันที ไม่ต้องรอขึ้นบัญชี แต่หากไม่เกี่ยวข้องกับโควิด และไม่ใช่ 24 สายงาน แต่มีชื่อรอเรียกตัวอยู่แล้วก็เป็นไปตามระบบ ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน เป็นตำแหน่งแยกกัน ไม่ได้มาจากมติครม.” นพ.สุระ กล่าว