ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรคเผยความคืบหน้าผลตรวจภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิดครอบครัวชายอินเดีย พบ 3 รายเป็นค่า IgG แสดงว่าติดเชื้อนานแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ถือว่าแพร่โรค ขณะที่หลานอีก 1 คนไม่พบภูมิฯขึ้น พร้อมแจงกรณีทูตฮังการีในไทยติดเชื้อ

10 พ.ย. ที่กรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาการอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้าผลการสอบสวนโรคที่เกี่ยวข้องกับกรณีชาวอินเดียติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า ผู้ป่วยชายชาวอินเดียที่เราตรวจพบนั้นมีเชื้อปริมาณน้อย และตรวจพบภูมิคุ้มกัน IgG จึงคาดว่าติดเชื้อนานแล้ว และจากการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดในครอบครัวประกอบด้วย และหลานสาว ผลตรวจเป็นลบ แต่พบว่าภรรยาของผู้ป่วย, น้องชาย, น้องสะใภ้ พบภูมิคุ้มกันขึ้น IgG แปลว่าทั้ง 3 ราย มีการติดเชื้อมานานหลายเดือนแล้ว และตอนนี้ไม่ถือว่าแพร่โรค ขณะที่หลานไม่พบมีภูมิคุ้มกันขึ้นแต่อย่างใด

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ส่วนผลการสอบสวนโรคในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ภูเก็ต เชียงใหม่ และสุโขทัย เสี่ยงสูง 79 ราย (รวมคนในครอบครัว) เสี่ยงต่ำ 283 ราย ทั้งนี้ผลการตรวจไม่พบติดเชื้อเพิ่ม อย่างไรก็ตาม จากการประสานไปยังนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่พบว่าประชาชนในพื้นที่มีการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเพิ่มขึ้นเป็น 90% จากที่เคยตกลงไปอยู่ 60% ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 4 – 5 วัน หากไม่มีรายงานติดเชื้อเพิ่มจะถือว่าเข้าสู่ระยะปลอดภัย สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุม อย่างไรก็ตาม จากนี้มีการหารือกันว่าจะมีการสุ่มตรวจหาภูมิคุ้มกันของประชากรในพื้นที่ที่ผู้ป่วยพำนักอาศัยอยู่

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ขณะเชื่อว่าทั่วโลกมีการติดเชื้อโควิด-19 เกิน 100 ล้านราย แม้จะมีรายงานจริงเพียง 50 ล้านรายเท่านั้น ดังนั้นประเทศไทยจะต้องเพิ่มความละเอียดในการตรวจมากขึ้น และมีโอกาสที่เราจะเจอเคสในลักษณะเดียวกับชายชาวอินเดียมากขึ้น คือตรวจเจอเชื้อ มีภูมิคุ้มกันซึ่งแปลได้ว่ามีการติดเชื้อนานแล้ว ซึ่งจากนี้จะเจาะเลือดตรวจภูมิคุ้มกันทุกราย

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวถึงกรณีสืบเนื่องจากการที่ประเทศไทยตรวจพบรมต.ฮังการีติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างเดินทางมาเยือนประเทศไทย ว่า รมต.ฮังการีที่เราตรวจพบว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 นั้น มีการเดินทางมาถึงไทยเมื่อช่วงประมาณ 1 ทุ่มของวันที่ 3 พ.ย. และถูกส่งเข้ารักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูรทันที จากนั้นทางการฮังการีได้ส่งเครื่องบินมารับกลับประเทศ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นมีการสอบสวนโรค และให้กักตัวผู้สัมผัสทั้งหมด 17 คน

“ผลการตรวจหาเชื้อครั้งแรกพบว่าผลก็พบว่า 16 ราย ให้ผลเป็นลบ อีก 1 รายให้ผลเป็นบวก แปลว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 เป็นชายฮังการีอายุ 53 ปี ซึ่งเป็นนักการทูต โดยตรวจสอบประวัติพบว่าอยู่บนรถคันเดียวกันกับรมต. ฮังการีซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อ นอกจากนี้ยังมีการรับประทานอาหารร่วมกันประมาณ 30 นาที ขณะนี่ถูกส่งตัวมารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ไม่มีไข้ ไม่มีอาการ และไม่มีใครสัมผัสรายนี้เพิ่มเติม ส่วนที่เหลืออยู่ในที่กักกันเช่นเดิม” นพ.โสภณ กล่าว