ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อธิบดีกรมควบคุมโรคย้ำสวมหน้ากากอนามัยถูกต้อง ช่วยป้องกันโควิด ส่วนใครเดินทางจังหวัดพบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ไม่ต้องกักตัว ไม่ใช่วันเวลาเดียวกันกับผู้ป่วย ขณะที่เคสสัมผัสผู้ป่วยสิงห์บุรี ไม่พบเชื้อ ส่วนข้อมูลการกลายพันธุ์ล่าสุดไม่พบความรุนแรงเพิ่ม อัตราเสียชีวิตน้อยลง

 เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2563  ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน  ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -16 (ศบค.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีผู้ติดโควิด รายใหม่  25 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้ากักตัวในสถานที่กักกันทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การพบติดเชื้อในประเทศเพื่อนบ้านทั้งมาเลเซีย เมียนมา และกัมพูชายังต้อเฝ้าระวัง 

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แถลงสถานการณ์โควิดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ว่า ขณะนี้มีกลุ่มที่ติดโควิดเกี่ยวเนื่องกับจังหวัดท่าขี้แหล็ก ประเทศเมียนมา รวม 46 ราย ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมอยู่ในสเตจคลอรันทีน และการรักษาในรพ. ซึ่งในพื้นที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายร่วมกับท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ไม่จำเป็นต้องกักตัว เป็นการยืนยันว่า หากไม่ได้อยู่ในช่วงวันและเวลาเดียวกับผู้ป่วยถือว่าปลอดภัย แต่ขอย้ำประชาชนในการสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องครอบคลุมทั้งจมูกและปาก ไม่ให้หน้ากากตกลงมาที่คาง จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด แต่หากสวมไม่ถูกย่อมมีความเสี่ยงรับเชื้อ

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า อีกประการหนึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้มีการรายงานการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูงและกลุ่มอื่นๆที่ต้องสงสัยในพื้นที่ต่างๆ 5,100 กว่ารายผลเป็นบวกเพียง 1 ราย คือในรายที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นเพื่อนที่เที่ยวร่วมกันกับผู้ที่เดินทางกลับมาจากท่าขี้เหล็กซึ่งเป็นผู้ป่วยยืนยันไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการคัดกรองโรคและติดตามควบคุมโรคได้เร็ว โอกาสจะเป็นผู้ติดเชื้อจากการเป็นผู้สัมผัสเสียงสูงมีน้อยมากถ้าเทียบกับตอนต้นของการระบาดเมื่อช่วงเดือนมี.ค. เม.ย. และพ.ค. ขณะนั้นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงมีโอกาสติดเชื้อประมาณ 3% แต่สถานการณ์เดียวระยะหลัง สามารถควบคุมโรคได้ดีตรวจจับผู้ป่วยได้เร็วขึ้นทำให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงขณะนี้ติดเชื้อไม่ถึง 1% นี่เป็นสิ่งที่ทำให้การแพร่ระบาดของโรคเป็นไปลำบากแต่สิ่งสำคัญขอความร่วมมือจากประชาชนในการช่วยกันสอดส่องดูแลพื้นที่หากพบคนเดินทางมาจากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างด้าวแล้วไม่ผ่านการกักตัว 14 วันขอให้แจ้งต่อหน่วยงานภาครัฐ หรือโทรสายด่วน 1422

“ ส่วนเรื่องการกลายพันธุ์นั้น ที่คนกังวลว่า จะทำให้เกิดการติดเชื้อเร็วหรือไม่ขอชี้แจงว่าโดยธรรมชาติของเชื้อไวรัสจะมีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องแปลกเพียงแต่การกลายพันธุ์ที่สนใจคือ 1. กลายพันธุ์และแพร่กระจายได้เร็วหรือไม่ 2. กลายพันธุ์และทำให้ความรุนแรงของโรคมากขึ้นหรือไม่ ทำให้เกิดการเสียชีวิตมากขึ้นหรือไม่และ 3. การกลายพันธุ์และทำให้ความสามารถในการใช้วัคซีนเพื่อป้องกันโรคน้อยลงหรือไม่ ทั้งนี้ที่ผ่านมาจากข้อมูลพบว่าสายพันธุ์ปัจจุบันที่มีการระบาดทั่วโลกต่างกับสายพันธุ์ที่มีการระบาดครั้งแรกที่อู่ฮั่นในประเทศจีนปัจจุบันเรียกว่าสายพันธุ์ G พบว่ามากกว่าร้อยละ 80 พบทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยในระยะหลังที่พบผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศเกือบทั้งหมดเป็นสายพันธุ์ G ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เมื่อเกิดการติดเชื้อในเซลล์มนุษย์จะสามารถสร้างไวรัสตัวลูกขึ้นมาแพร่ได้เร็วขึ้น แต่ความรุนแรงของโรคลดน้อยลงอัตราการเสียชีวิตทั่วโลกพบ 2% “ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว

(ข่าวเกี่ยวข้อง :“หมอประสิทธิ์” เผยสายพันธุ์ไวรัสโควิดเมียนมา G614 แพร่ง่ายและเร็วกว่าสายพันธุ์เดิม)

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึงความก้าวหน้าในการสอบสวนโรครายสิงห์บุรี ว่า สำหรับการสอบสวนการติดเชื้อในประเทศรายที่อาศัยอยู่สิงห์บุรี เป็นหญิงอายุ 51 ปี ซึ่งจากการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงทั้งหมดมี 55 ราย เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 37 ราย ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด และกลุ่มเสี่ยงต่ำ 18 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างเฝ้าระวังอาการให้ครอบ 14 วัน สำหรับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ทุกจุดเจ้าหน้าที่ประมวลจากการสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้อง ข้อมูลล่าสุดพบปัจจับเสี่ยงขณะที่อยู่ในสนามบิน เพื่อรอขึ้นเครื่อง พบว่า ผู้ป่วยสิงห์บุรีสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แต่มีถอดเวลาสั้นๆ เพื่อตรวจบัตรประชาชน ถือว่าเสี่ยงต่ำ ทั้งนี้ มีภาพบางมุมไม่สามารถมองเห็นได้ อย่างการใช้บริการจุดอื่นๆ ห้องน้ำ สถานที่อื่นๆ แต่พบว่าผู้ป่วยรายที่อาศัยอยู่พิจิตร และรายที่อยู่กทม. สวมหน้ากากอนามัยไม่ถูกต้อง ตกลงมาใต้จมูกและปาก โดยสรุปคือ ข้อมูลขณะนี้อยู่ในระดับที่อธิบายปัจจัยเสี่ยงได้ ผู้ป่วยรายก่อนหน้านี้(พิจิตรและกทม.)มีโอกาสแพร่เชื้อ ซึ่งท่าอากาศยาน หน่วยงานดูแลความสะอาดเพิ่มมาตรการทำความสะอาดแจ้งเตือนปชช.ใช้บริการปฏิบัติตัวถูกต้อง จัดสถานที่ให้ปลอดภัย เว้นระยะมากขึ้น มีเจลล้างมือเพียงพอใช้บริการ ตรวจวัดไข้ สอบถามอาการมากขึ้น