ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

พระมหาสีไพร อาภาธโร ประธานมูลนิธิฯ เข้ายื่นหนังสือถึง “อนุทิน” ขอรับรองหลักสูตรตอกเส้นเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง ด้าน “ทพ.อาคม” รองอธิบดีสบส.รับเรื่อง เร่งติดตามอยู่ระหว่างพิจารณาของผู้ที่เกี่ยวข้อง 

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สป.สธ.) พระมหาสีไพร อาภาธโร ประธานมูลนิธิตอกเส้นสีไพร จ.อุทัยธานี พร้อมด้วยบุคลากรที่ผ่านการเรียนการสอนตอกเส้นของโรงเรีรยนนวดตอกเส้นสีไพรประมาณ 50 คน เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอติดตามความล่าช้าในการขอใบอนุญาตเปิดสอนหลักสูตรตอกเส้นเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและการขอใบอนุญาตเปิดสอนหลักสูตรตอกเส้นของสภาการแพทย์แผนไทย

พระมหาสีไพร อาภาธโร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า วันนี้มาติดตามกรณียื่นหลักสูตรตอกเส้นตั้งแต่ปี 2558 จนขณะนี้ยังไม่สำเร็จ และมีนักเรียนกว่า 2 พันคน และมีผู้จะเรียนอีกตั้งหลายหมื่นคน ซึ่งตรงนี้เมื่อล่าช้าก็ไม่เป็นธรรม โดยหลักสูตรตอกเส้นไม่เคยมีในประเทศไทยและในโลก โดยอาตมาเป็นผู้รวบรวมวิชาการตอกเส้น และมายื่นขออนุญาตการเปิดหลักสูตร ซึ่งทำตามขั้นตอนทุกอย่าง แต่สภาการแพทย์แผนไทยไม่อนุมัติ มีการติดตามมาหลายปี และล่าสุดได้สรุปเรื่องเมื่อวันที่ 5 มี.ค.2562 มีการอนุมัติหลักสูตร 100 ชั่วโมง แต่เปิดสอนไม่ได้ เพราะต้องอบรมครูก่อน แต่ก็ยังไม่ได้อยู่ดี

“จริงๆ พวกเราเป็นหมอตอกเส้นเพื่อสุขภาพ ไม่ใช่หมอเถื่อน เพราะเราผ่านงานวิจัย ผ่านการรับรองมีการสอนหลายประเทศ ขนาดจีนยังมาร่วมมือกับเรา ซึ่งหากกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่ขึ้นทะเบียนให้พวกเราก็จะส่งผลกระทบมาก เนื่องจาก สสจ.ก็จะมาจับพวกเรา หาว่าพวกเราเป็นหมอเถื่อน ซึ่งจริงๆ เราไม่ใช่ เราพยายามขึ้นทะเบียนอยู่ วันนี้จึงต้องมาขอให้กระทรวงสาธารณสุขช่วยเหลือ โดยยื่นหนังสือถึงท่านอนุทิน โดยตรงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม” พระมหาสีไพรฯ กล่าว

พระมหาสีไพร ฯ กล่าวอีกว่า อาตมาได้ยื่นขอเปิดหลักสูตรตอกเส้นเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมงกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เมื่อเดือน พ.ย. 2562 ทุกขั้นตอนผ่านหมด แต่พอจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาในเดือน มี.ค. 2563 ทางนายกสภาแพทย์แผนไทยก็ออกหนังสือคัดค้าน ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพจึงส่งหนังสือขอความเห็นทางสำนักคณะกรรมการกฤษฎีกา สุดท้ายแล้วขึ้นอยู่ทางกระทรวงสาธารณสุขพิจารณา สำหรับการตอกเส้นเพื่อสุขภาพนั้นก็จะช่วยในเรื่องของการแก้อาการปวดต่างๆ ปวดข้อ ปวดเส้น ปวดเอว ปวดหลัง ฯลฯ

ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กล่าวว่า หลักสูตรการตอกเส้นของทางมูลนิธิตอกเส้นสีไพร พบว่า เข้าข่าย 2 พ.ร.บ. คือ หากเป็นการตอกเส้นเพื่อสุขภาพ จะอยู่ในพ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 แต่หากเป็นการรักษาจะอยู่ในพ.ร.บ.วิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2556 แต่จากการพิจารณาที่ผ่านมาจะเข้าข่ายการตอกเส้นเพื่อสุขภาพ แต่ทางสภาการแพทย์แผนไทยได้ยื่นหนังสือคัดค้าน ก็มีการดำเนินการเพื่อเรื่องนี้มาตลอด โดยนำเข้าสู่การพิจารณาของผู้บริหาร ณ ขณะนี้ และจากการยื่นหนังสือครั้งนี้ ตนก็จะนำเรื่องเข้าสู่การหารือของผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยเร็วที่สุด

“ตอนนี้หลักสูตรเกิดขึ้นก่อนกฎหมายบังคับใช้ หากกฎหมายบังคับใช้แล้วหลักสูตรนี้ก็ต้องนำเข้าพิจารณาในกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เพื่อพิจารณารับรองหลักสูตร อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้เกิดตามหลัง ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จะมีบทเฉพาะกาล เพื่อดูแลคนเหล่านี้ให้ได้รับการคุ้มครองมากที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่เราถือเป็นเงื่อนไขในการทำกฎหมาย จะไม่ให้เกิดข้อขัดแย้ง ซึ่งคนที่ทำถูกต้องก่อนกฎหมายจะออกนั้นอาจจะเพิ่มเติมเรื่องของการอบรมเพิ่มเติม และทดสอบความรู้ ความสามารถและขึ้นทะเบียน” ทพ.อาคม กล่าว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง