ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยโรงพยาบาลสนามบริเวณตลาดกลางกุ้ง พร้อมให้รักษาเบื้องต้นแรงงานติดเชื้อโควิด 19 หากมีอาการหนักจะส่งไปยังโรงพยาบาล ตามหลักมนุษยธรรม พร้อมส่งทีมเอ็มแคท ดูแลสภาพจิตใจ

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่ตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิตปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ ​อธิบดีกรมสนับสนุน​บริการ​สุขภาพ นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง​สาธารณสุข ​และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ​ติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ ผู้ติดเชื้อโควิด 19  และการตั้งโรงพยาบาลสนามในบริเวณตลาดกลางกุ้ง

นพ.เกียรติภูมิ ​กล่าวว่า รัฐบาลไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นที่บริเวณตลาดกลางกุ้ง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีผู้ติดเชื้อค่อนข้างมาก ลักษณะเป็น Cohort ward ให้การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด 19   ที่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย และให้การรักษาเบื้องต้นโรคทั่วไป วางแผนครอบครัว ฉีดยาคุมกำเนิด และสุขภาพจิต ตามหลักมนุษยธรรม ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล มีทีมแพทย์และพยาบาลประจำ หากมีอาการรุนแรงจะส่งต่อไปรักษาในโรงพยาบาล ให้การรักษาผู้ป่วยแล้ว ​75 คน สำหรับการวางระบบโรงพยาบาลสนาม มีสถาบันบําราศนราดูร กรมควบคุมโรค กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เข้ามาจัดการระบบวิศวกรรม ระบบกรองอากาศ และการกำจัดสิ่งปฏิกูล ตามมาตรฐานโรงพยาบาลสนาม โดยแบ่งโซนบริการเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนสีแดงคือบริเวณหอพัก โซนสีส้ม คือจุดรอรักษาและคัดกรอง และโซนสีเขียวคือจุดพยาบาลปฏิบัติการ ขณะนี้ให้บริการแล้ว 30 เตียง กำลังเพิ่มจำนวนโดยได้รับการสนับสนุนเตียงจากทหาร คาดว่าจะจัดเตียงรองรับได้สูงสุด 100 เตียง

ปลัดสธ. กล่าวอีกว่า จากการประเมินการระบาด ขณะนี้เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว วางแผนว่าจะนำคนที่กักตัวครบ 14 วันออกมาเจาะเลือดตรวจหาภูมิต้านทาน ซึ่งหากมีภูมิต้านทานแล้วถือว่าหายป่วย จะย้ายออกไปอยู่ในบริเวณอื่นที่ภาครัฐจัดไว้ให้ การดูแลสุขภาพแรงงานในหอพักที่ตลาดกลางกุ้งแห่งนี้ จัดว่าเป็น Cluster Quarantine เพื่อกักกันไม่ให้เกิดการเดินทางและเกิดการแพร่เชื้อ  มีทีมอาสาสมัครแรงงานต่างด้าว(อสต.) ช่วยในการสื่อสารและให้ความรู้ด้านสุขภาพแก่ผู้ที่อยู่ภายในที่พัก มีการจัดส่งอาหารที่พอเพียงและระบบป้องกันโรค นอกจากนี้ยังมีทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (MCATT) ลงพื้นที่ดูแลด้านสุขภาพจิตด้วย 

“ในวันนี้ได้นำอาหารและเจลแอลกอฮอล์มาแจกจ่าย เพื่อดูแลสุขภาพตัวเอง ทุกคนที่อยู่ที่นี่จะได้รับการดูแลเบื้องต้นหากมีอาการหนักจะถูกส่งไปยังโรงพยาบาล การกักตัวในสถานที่แห่งนี้และการนำผู้ที่หายป่วยออกเป็นไปตามหลักการสาธารณสุข จากการสอบถามแรงงานที่อยู่ในหอพักพบว่ามีความเข้าใจกับมาตรการและจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี   ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ รักษามาตรการสวมหน้ากากล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่าง และช่วยกันดูแลหากพบเห็นแรงงานเล็ดลอดออกจากพื้นที่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐ เพื่อป้องกันการหลบหนีไปแพร่เชื้อบริเวณอื่น” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว