ผู้บริหารกทม.ลงพื้นที่ตรวจเข้มสถานประกอบการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 การใส่หน้ากากอนามัย การตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าใช้บริการ การตั้งจุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การสแกนคิวอาร์โค้ดแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ”
(25 ธ.ค.63) เวลา 22.00 น. นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยมี นายขจิต ชัชวานิชย์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางกะปิ สำนักอนามัย สำนักเทศกิจ สถานีตำรวจนครบาลท้องที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ ณ ร้าน ID Bar ร้าน Mind Story และร้านเพ้อ ซอยโยธินพัฒนา เขตบางกะปิ
สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในจังหวัดสมุทรสาคร และได้มีการแพร่ระบาดไปยังพื้นที่อื่นๆ นั้น ในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) ได้มอบหมายให้คณะทำงานด้านการประสานงานการดูแลความสงบเรียบร้อยร่วมกับสำนักงานเขต 50 เขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการประเภทผับ บาร์ และคาราโอเกะ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเฝ้าระวังตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือเจ้าของสถานประกอบการให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กรุงเทพมหานครกำหนดอย่างเคร่งครัด อาทิ การใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดไข้ วัดอุณหภูมิ จุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การใช้แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” เนื่องจากมีความชัดเจนทางข้อมูลในการติดตามตัวบุคคลได้ง่ายกว่าการลงชื่อในสมุด การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล มีการบริหารจัดการพื้นที่ให้มีความเหมาะสมกับจำนวนคนที่ใช้บริการ
โดยเน้นย้ำให้สถานประกอบการปฏิบัติตามมาตรการหลักที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง อาทิ ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากอนามัยแบบผ้าตลอดเวลา จัดให้มีจุดบริการล้างมือ การเว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกัน การควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการ ระยะห่างระหว่างโต๊ะ การทำความสะอาดพื้นและพื้นผิวสัมผัสบ่อยๆ ทั้งก่อนและหลังการให้บริการ และการใช้แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ตามที่ราชการกำหนด ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้ออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กำหนดให้สถานบริการ สถานบันเทิง สามารถจำหน่ายอาหารได้ โดยให้รักษาระยะห่างระหว่างบุคคลของผู้ใช้บริการ และห้ามมีการเต้นรำในสถานบริการ
อย่างไรก็ตามประชาชนที่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงหรือมีความกังวลว่ามีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ให้ทำแบบประเมินความเสี่ยงในระบบ BKK COVID-19 พร้อมทั้งเฝ้าระวัง สังเกตอาการตนเอง และกักตัวเป็นเวลา 14 วัน หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (Emergency Operation Center, EOC) โทร. 094 386 0051 ตลอด 24 ชั่วโมง
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันนี้คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางกะปิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจแนะนำสถานประกอบการประเภทผับ บาร์ และคาราโอเกะ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พร้อมทั้งให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการให้ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมของทางราชการอย่างเคร่งครัด อาทิ การใส่หน้ากากอนามัย การตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าใช้บริการ การตั้งจุดให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การสแกนคิวอาร์โค้ดแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่าผู้ประกอบการได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งการจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ โดยให้นั่งโต๊ะละ 5 คน มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ยกเว้นกรณีมาด้วยกันเป็นครอบครัวจะอนุโลมให้นั่งด้วยกันได้ ระยะห่างระหว่างโต๊ะ 2 เมตร หากไม่สามารถตั้งโต๊ะห่างกันได้ ให้ใช้ฉากกั้นระหว่างโต๊ะ การทำความสะอาดพื้นผิวจุดสัมผัสร่วมกันบ่อยๆ เช่น ลูกบิดหรือมือจับประตู ก๊อกน้ำ
อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนอย่าได้วิตกกังวล สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่กรุงเทพมหานครกำหนด ได้แก่ ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19
- 11 views
