ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรคเผยสถานการณ์การระบาดโควิด 58 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ภาคกลาง-ตะวันออก พร้อมเผยรายละเอียด “ผู้ติดเชื้อโรงเบียร์ 90 อ.ศรีราชา -บุคลากรทางการแพทย์สถาบันโรคทรวงอก- พนง.-จนท.ทางด่วน” ย้ำสถานประกอบการเข้มงวดมาตรการ

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. เวลา 15.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยตอนนี้มี 58 จังหวัด ถ้าดูเป็นรายสัปดาห์พบว่าเฉลี่ยติดเชื้อประมาณ 37 - 41 จังหวัด ส่วนใหญ่ยังอยู่ที่ภาคกลางและภาคตะวันตก ส่วนภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีการพบผู้ติดเชื้อประปราย ไม่ถึง 10 รายและสามารถควบคุมโรคได้ดี ไม่มีการกระจายในชุมชน

นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่โรงเบียร์ 90 ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นั้นคล้ายกับสถานบันเทิงที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเริ่มต้นเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2563 ซึ่งมีลูกค้าท่านหนึ่งมาจากจังหวัดระยอง ที่เป็นจังหวัดที่มีการระบาดจากบ่อนการพนันอยู่ ต่อมาลูกค้ารายดังกล่าวมีอาการป่วยวันที่ 27 ธ.ค. จากนั้นก็เริ่มพบลูกค้าและพนักงานในร้านติดเชื้อฯ อย่างไรก็ตาท เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ได้มีการจัดงานเลี้ยงให้กับพนักงาน และหลังจากนั้นก็ปิดการให้บริการ อย่างไรก็ตามทีมสอบสวนโรคได้สอบสวนโรคและติดตามกลุ่มดังกล่าวพบการติดเชื้อต่อๆ กัน ทั้งในกลุ่มพนักงาน ลูกค้า และครอบครัว ล่าสุดมีการติดเชื้อแล้ว 52 ราย ทั้งนี้เชื่อว่าผู้สัมผัสที่อยู่ในการกักตัวตอนนี้หลายสิบคนนั้นจะมีการตรวจพบเชื้อเพิ่มเติมอีก

การระบาดในจังหวัดชลบุรีค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะศรีราชา ดังนั้นจึงมีการตรวจเชิงรุกศรีราชา 2,500 ราย เกี่ยวข้องหลายกรณี รวมพบผู้ติดเชื้อ 253 ราย แบ่งเป็นเกี่ยวข้องกับทั้งโรงเบียร์ 90 ที่ศรีราชา 52 ราย กรณีบ่อนการพนัน 69 ราย มีผู้สัมผัส 28 ราย และที่อื่นๆ และหลายคนที่เป็นผู้ติดเชื้อมีการไปเที่ยวตามผับ ตามบาร์ญี่ปุ่น ร้านนวด ดังนั้น จากนี่คือตัวอย่างของการมีกิจกรรมในสถานที่อากาศไม่ถ่ายเท มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก ไม่สวมหน้ากากอนามัย มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งหมดเป็นความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการติดเชื้อฯ ทั้งสิ้น ดังนั้นขอเตือนหลีกเลี่ยงการไปพื้นที่เสี่ยง เพราะเมื่อเกิดการติดเชื้อฯ จะนำกลับมาติดคนที่บ้าน เช่นที่เกิดขึ้นแล้วคือติดเชื้อสู่ลูก แล้งลูกก็นำไปติดที่โรงเรียนต่อ.

เมื่อถามถึงกรณีพบการบุคลากรทางการแพทย์ที่สถาบันโรคทรวงอก ติดเชื้อโควิด-19 นั้น นพ.โอภาส กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นพบว่าติดเชื้อ 2 ราย ทราบว่าเป็นสามี ภรรยากัน โดยเป็นการติดเชื้อนอกรพ.จากการใช้ชีวิตประจำวัน ขณะนี้ได้ให้กักตัวเรียบร้อยแล้ว รวมถึงเพื่อนในรพ.ยังไม่พบว่ามีใครที่ติดเชื้อเพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาต้นตอการติดเชื้อ และผู้สัมผัสว่ามีใครบ้าง เบื้องต้นได้รับรายงานว่าติดเชื้อมาจากภายนอก ไม่ใช่การติดเชื้อจากการทำงาน ทั้งนี้จากข้อมูลการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่นี้พบบุคลากรติดเชื้อจากการทำงานน้อยกว่ารอบแรกมาก โดยรอบแรกพบบุคลากรติดเชื้อจากการทำงานกว่า 180 ราย ส่วนรอบนี้ยืนยันแล้วแค่กลุ่มบุคลากรที่ทำงานในสถานที่กักกันทางเลือก (ASQ) ซึ่งรายงานไปแล้ว

เหตุการณ์ที่มีการระบาดของโควิด-19 ในรอบนี้ ทั้งจากกรณีพนักงานช่อง 3 เจ้าหน้าที่ทางด่วน ทำให้ขณะนี้ กลุ่มสถานประกอบการ ออฟฟิศต่างที่มีพนักงานจำนวนมากนั้น มีโอกาสที่จะเจอพนักงานของตัวเองติดเชื้อโผล่ขึ้นมาบ้างจากการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นขอให้สถานประกอบการต่างๆ วางมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อ โดยเฉพาะการทำความสะอาดพื้นที่ที่มีการใช้งานร่วมกัน เช่น ห้องน้ำ ลูกบิดประตู โรงอาหาร อาจจะไม่ต้องปิด แต่ขอให้เว้นระยะห่าง และงดการรับประทานอาหารร่วมกัน และขนมจุบจิบระหว่างทำงานในห้องทำงาน อากาศไม่ถ่ายเท เพราะเป็นช่วงที่ต้องถอดหน้ากากอนามัย ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อได้ ย้ำว่าหน้ากากอนามัยสำคัญมาก อย่างกรณีของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งท่านสวมหน้ากากอนามัยตลอด ตอนนั้นท่านเริ่มป่วยแล้ว แต่ก็ไม่พบว่ามีใครติดเชื้อเพิ่ม