ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

การจำหน่ายสินค้าผ่านระบบ online ซึ่งเติบโตขยายตัวอย่างมาก แม้ในภาวะการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ปริมาณการสั่งซื้อสินค้าในระบบ online และการส่งของก็มิได้ลดลง ซึ่งทำให้เกิดการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ทำให้เข้าใจผิดว่าพัสดุไปรษณีย์มีเชื้อโควิด-19 โดยมีการสอบถามเพื่อตรวจสอบข้อมูลมายัง www.cofact.org เมื่อเร็วๆ นี้

 

Cofact อ้างถึงการชี้แจงจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ผ่านเว็บไซต์ไปรณีย์ไทย ระบุว่าผู้ใช้บริการโปรดอย่าหลงเชื่อกรณีมีข้อความปรากฏบนสื่อออนไลน์ว่า

 

“ขอให้ทุกท่านที่ได้รับจดหมาย หรือพัสดุไปรษณีย์ ให้ใส่ถุงไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเปิด หรือฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนนำเข้าบ้านเพราะว่ามีคนได้รับเชื้อ COVID – 19 แล้ว” ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ

 

ช่วงเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว (2563) ทางไปรษณีย์ไทย เคยออกมาให้ความเชื่อมั่นกับผู้ใช้บริการว่าไปรษณีย์ไทยมีมาตรการในการเว้นระยะห่างพร้อมทั้งดูแลความสะอาดเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเคาน์เตอร์บริการจะเว้นช่องบริการ 1 ช่อง พร้อมตีเส้นระยะห่าง 1 เมตร สำหรับคิวรอใช้บริการ เว้นเก้าอี้นั่ง 1 เมตร และติดตั้ง QR Code สำหรับ แอพพลิเคชันไทยชนะทุกแห่ง ขณะที่ศูนย์ไปรษณีย์ต้องดูแลความสะอาดไปรษณียภัณฑ์ทุกชิ้น พร้อมพ่นยาฆ่าเชื้อรถขนส่งไปรษณีย์ทุกคัน รวมถึงพัสดุทุกชิ้น สิ่งของที่มาจากต่างประเทศ รวมถึงการนำจ่ายสิ่งของ ไปรษณีย์ไทย ได้กำชับให้บุรุษไปรษณีย์ทุกคนตรวจวัดอุณหภูมิก่อนออกนำจ่ายสิ่งของทุกครั้ง

 

นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร’ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ไปรษณีย์ไทย ได้วางแนวทางการดำเนินงานในสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ไว้แล้ว จึงสามารถรับมือกับจำนวนสิ่งของฝากส่งที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากได้ เพื่อให้สามารถเข้าถึงความต้องการของผู้ใช้บริการได้ในทุกสถานการณ์

 

จากยอดปริมาณสิ่งของพัสดุที่เข้ามาในระบบที่เพิ่มขึ้น ไปรษณีย์ไทย จึงยกระดับกลยุทธ์ 5 มิติคุณภาพการบริการ ดังนี้

 

1.ด้านการให้บริการลูกค้า จัดให้มีบริการเจลทำความสะอาดมือสำหรับผู้ใช้บริการทุกที่ทำการไปรษณีย์

 

2.ด้านที่ทำการไปรษณีย์ ยกระดับมาตรการด้านอาชีวอนามัย โดยเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดทุกครึ่งชั่วโมงของที่ทำการไปรษณีย์ โดยเฉพาะจุดที่ให้บริการลูกค้า อาทิ มือจับประตู จุดกดบัตรคิว เก้าอี้ เคาน์เตอร์ให้บริการ

 

3.ด้านบุคลากร และเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ ไปรษณีย์ไทยได้ให้ความรู้ ข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย พร้อมมอบหน้ากากอนามัยให้เจ้าหน้าที่ที่ใกล้ชิดลูกค้า มีมาตรการสั่งห้ามบุคลากรเดินทางในประเทศกลุ่มเสี่ยง

 

4.ด้านศูนย์ไปรษณีย์ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสิ่งของฝากส่งผ่านทางไปรษณีย์ขาเข้าที่มาจากต่างประเทศทุกชิ้น ภายในศูนย์ไปรษณีย์ 4 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ ศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) และศูนย์ไปรษณีย์กรุงเทพ ซึ่งถือเป็นศูนย์ไปรษณีย์หลักในการคัดแยกไปรษณียภัณฑ์ขาเข้าจากต่างประเทศของไปรษณีย์ไทยก่อนกระจายส่งพัสดุไปยังประชาชน

 

5.ด้านการกระจายเจลแอลกอฮอล์ ด้วยศักยภาพของไปรษณีย์ไทยที่มีเครือข่ายรวมกว่า 10,000 แห่ง ได้ร่วมกับองค์การสุรา กรมสรรพสามิต เตรียมวางจำหน่ายเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือในที่ทำการไปรษณีย์ ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้นในราคาที่เป็นธรรม

 

นายก่อกิจ กล่าวอีกว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งไปรษณีย์ไทย ได้มีแนวทางรับมือในระยะยาว แต่เชื่อว่าจะยังสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดได้อย่างแน่นอน ด้วยการพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดนิ่ง ซึ่งไปรษณีย์ไทยยังมองถึงความรับผิดชอบและการอยู่เคียงข้างสังคมอีกด้วย

 

ถึงแม้ปัจจุบัน จะพบว่ามีพนักงานไปรษณีย์ไทยติดโควิด แต่ยังไม่มีรายงานว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารรถติดต่อได้ทางพัสดุ