ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองนายกฯ-รมว.สธ. เผยล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แสดงเจตนารมณ์ขอฉีดวัคซีนเพื่อสร้างความมั่นใจ ส่วนเรื่องข้อกำหนดการฉีดวัคซีนมีการแจ้งนายกฯ แล้ว สิ่งสำคัญคือ การแสดงเจตนารมณ์นี้ถือเป็นสปิริตความเป็นผู้นำ

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีวัคซีนโควิด19 จะเข้าถึงไทย ว่า ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงเจตนารมณ์ว่ายินดีฉีดวัคซีนเป็นคนแรกเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าได้แจ้งต่อท่านนายกฯ แล้วหรือไม่ เรื่องข้อกำหนดการฉีดวัคซีนซิโนแวคไม่ควรให้คนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี นายอนุทิน กล่าวว่า แจ้งแล้ว ท่านทราบแล้ว อย่าให้พูดมากกว่านี้เลย แค่ท่านนายกฯ ท่านเรียกตน บอกว่ามีความประสงค์ เต็มใจที่จะฉีดวัคซีนเป็นคนแรก แค่นี้ก็ถือว่าท่านแสดงสปิริตการเป็นผู้นำ

“สธ.เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตวัคซีนทุกบริษัทสามารถมาขึ้นทะเบียนกับ อย.ได้ ไม่มีกีดกัน ขอยืนยันว่าเราเปิดกว้าง ขอให้เตรียมเอกสาร ผลการวิจัย ให้พร้อม จะช่วยให้การขึ้นทะเบียนได้รวดเร็วขึ้น และเมื่อเจ้าของบริษัทวัคซีนประกาศว่าไม่ได้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ภาคเอกชนหรือโรงพยาบาลเอกชนจะติดต่อจัดซื้อมาฉีดได้” นายอนุทิน กล่าว และว่า ตอนนี้กลายเป็นว่าเราทำงานด้วยความหวาดกลัว แม้กระทั่งวัคซีนที่จะเข้ามา 24 ก.พ. นี้ ยังกลัวว่าจะเครื่องบินจากสตาร์ทไม่ติดวันนี้ทำงานทุกอย่างบนความกลัว ไม่ได้อยู่บนเหตุผล โดยเฉพาะปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ กลายเป็นว่าวัคซีนไม่เข้ามาแล้วรัฐบาลผิดหมด ซึ่งไม่ใช่ วันนี้รัฐบาลทำทุกอย่างที่ทำได้ทั้งหมดแล้ว สั่งซื้อแล้ว อนุมัติแล้ว ดังนั้นขอความเป็นธรรมและอยู่ด้วยความเข้าใจ 

“ในกรณีของท่านนายกรัฐมนตรี ผมไม่เคยพูดว่าท่านจะฉีดวัคซีนของซิโนแวค แต่ท่านแค่แสดงเจตนารมณ์ว่าจะฉีดเข็มแรก เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในความปลอดภัยของวัคซีนเท่านั้น ซึ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อกำหนด ไม่มียกเว้น” นายอนุทิน ย้ำ

ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค การให้วัคซีนต้องคำนึงถึงมาตรการที่ผู้ผลิตวัคซีนแต่ละบริษัทกำหนด ส่วนการบริหารจัดการวัคซีน เรามีคณะกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งมีนพ.โสภณ เมฆธน เป็นประธาน มีคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ และยังมีผู้เชี่ยวชาญอีกจำนวนมาก ที่เข้ามาช่วยกำหนดเกณฑ์ต่างๆในการฉีดวัคซีนทุกเข็ม ให้มีความปลอดภัยสูงสุด

รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวด้วยว่า สำหรับวัคซีนซึ่งจะเข้ามาในวันที่ 24 ก.พ. 2564 นี้ เป็นวัคซีนของบริษัทซิโนแวค ซึ่งมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ในการฉีดอยู่แล้ว ประกอบด้วย อายุ ซึ่งซิโนแวค กำหนดไว้ว่า ผู้ที่มีสิทธิได้รับวัคซีนต้องมีอายุระหว่าง 18 – 59 ปี ไม่สามารถฉีดในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีหรือมากกว่า 59 ปี ได้ เนื่องจากยังไม่มีผลการวิจัยที่เพียงพอมารองรับ นอกจากนี้ ยังมีข้อกำหนดไม่ให้ฉีดในหญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่เคยแพ้วัคซีนมาก่อนอีกด้วย