ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

มาอีกล็อต! วัคซีนโควิด19 ของแอสตราเซเนกาจำนวน 117,600 โดส ถึงไทย ด้าน “อนุทิน” ลั่นเริ่มต้นแผนฉีดวัคซีนให้ประชาชนชาวไทยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. วัคซีนโควิดแอสตราเซเนกา ขนส่งถึงประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว ซึ่งเป็นการส่งมอบเร็วขึ้นจากเดิมที่กำหนดไว้เพื่อเป็นอีกความหวังของประเทศไทยในการฟื้นตัวจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยวัคซีนชุดแรกของแอสตราเซเนกา ขนส่งมายังประเทศไทยมีจำนวน 117,600 โดส นับเป็นก้าวสำคัญสู่การเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในประเทศไทย

วัคซีนแอสตราฯ ได้รับการอนุมัติขึ้นทะเบียนแบบมีเงื่อนไขเพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉินเพื่อการสร้างภูมิคุ้มกันในประชากรอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยจะต้องผ่าน ขั้นตอนตรวจสอบคุณภาพก่อนที่จะทำการส่งมอบเพื่อเริ่มดำเนินการฉีดวัคซนี ในประเทศไทย  ทั้งนี้ วัคซีนแอสตราฯ ได้รับการยืนยันว่ามีความปลอดภัยและสามารถป้องกัน โควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเว้นระยะเวลาในการให้วัคซีนโดสแรกและโดสที่สอง ห่างกัน 4-12 สัปดาห์ผลการทดลองทางคลินิกยังระบุว่าวัคซีนดังกล่าวสามารถป้องกันอาการติดเชื้ออย่างรุนแรงและการเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้ 100% ตั้งแต่ 22 วันหลังจากฉีดวัคซีนโดสแรก และผลการวิจัยล่าสุดยังพบว่า วัคซีนจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นเมื่อยืดระยะเวลาระหว่างการฉีดวัคซีนโดสแรกและโดสที่สองห่างกันนาน 12 สัปดาห์โดยประสิทธิผลเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 76% (ดัชนีค่าประสิทธิผลอยู่ระหว่าง 59% ถึง 86%) ขึ้นไปที่ระดับ 82% (ดัชนีค่าประสิทธิผลอยู่ระหว่าง63% ถึง92%)

โดยวัคซีน ป้องกันโควิด-19 ของแอสตราฯ สามารถเก็บและจัดส่งที่อุณหภูมิเครื่องแช่เย็นทั่วไปที่ใช้อยู่แล้วในระบบสาธารณสุข (อุณหภูมิ 2 - 8 องศาเซลเซียส) ได้นานอย่างน้อย 6 เดือน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าว่า วัคซีนที่มาถึงในวันนี้ ถือเป็นก้าวแรกของประเทศไทยในการต่อสู้เพื่อยับยั้งการระบาดของโรคโควิด19 เราจะเริ่มต้นแผนฉีดวัคซีนให้ประชาชนชาวไทยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเริ่มต้นจากประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่เสี่ยงสูงสุดเป็นอันดับแรก ได้แก่ บุคลากรทางการแทพย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้าที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมการระบาด วันนี้เราได้ก้าวไปอีกขึ้นของการเอาชนะโรคระบาดครั้งนี้ และตนตั้งตารอนาทีประวัติศาสตร์ของการฉีดวัคซีนเข็มแรกในประเทศไทย พร้อมกับการเดินทางเพื่อข้ามผ่านวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ไปด้วยกัน

นายเจมส์ ทีก ประธานบริษัท แอสตราฯ กล่าวถึงการส่งมอบวัคซีนนี้ ว่า การขนส่งวัคซีนแอสตราฯ ชุดแรกมายังประเทศไทยนั้น นับเป็นความสำเร็จของทีมงานที่ได้ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้การจัดส่งวัคซีนเป็นไปอย่างราบรื่น และสามารถส่งมอบได้เร็วกว่าที่กำหนดจากแผนเดิม ในวันนี้เราได้บรรลุอีกหนึ่งเป้าหมายเพื่อตอกย้ำพันธกิจของแอสตราฯ ในการผลิตและจัดสรรวัคซีนให้ครอบคลุมประเทศต่างๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อร่วมคลี่คลายการแพร่ระบาด