ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผู้เชี่ยวชาญไวรัสฯ จุฬาฯ เผยรายละเอียดการฉีดวัคซีนแอสตราฯ เป็นแบบขวดละ 10 โดส สามารถฉีดหลายคนในขวดเดียว เช่นเดียววัคซีน mRNA ในอเมริกา แต่ต้องระวังเรื่องความสะอาด ดูดใช้หลายคนในเวลาเดียวกันจะดีที่สุด เพราะถ้าเหลือเก็บและทิ้งนาน หวั่นปนเปื้อน

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กถึงการฉีดวัคซีนโควิด 19 ชนิดไวรัสเวกเตอร์ของแอสตราเซเนกา ว่า วัคซีนของแอสตราฯ จะเริ่มฉีดในไทยพรุ่งนี้ วัคซีนเป็นแบบขวด ขวดละ 10 โดส (multiple dose) แต่ละโดสใช้ 0.5 มิลลิลิตร โดยแต่ละขวดจะบรรจุวัคซีนเกินมาโดยบรรจุประมาณ 6.5 มิลลิลิตร โดยส่วนที่เหลือถ้าดูดได้สามารถมาใช้กับคนต่อไป หรือเอามารวมกันให้ครบโดสและให้คนต่อไปได้ เช่นเดียวกับ mRNA วัคซีนในอเมริกา ก็ยอมรับเอาส่วนที่เหลือมารวมให้กับคนต่อไปได้ ในกรณีวัคซีนขวดละหลายโดส การเตรียมฉีดจะต้องระวังเรื่องความสะอาด ดูดใช้หลายคนในเวลาเดียวกันจะดีที่สุด เพราะถ้าเหลือเก็บและทิ้งไว้นาน กลัวจะปนเปื้อนเชื้อโรค

ประสบกาณ์ผมกับวัคซีน การดูดมา 0.5 มิลลิลิตร หรือให้วัคซีนที่ใช้กับเด็ก เราดูดจากขวด และลดการสูญเสียของยาที่เหลือติดหลอด (dead space) เราสามารถทำได้ โดยให้มีฟองอากาศเล็กน้อย แล้วไล่อากาศชนิดให้ฟองอากาศลอยอยู่บนหลอด syringe และเวลาฉีดที่แขนให้ผู้ถูกฉีดมือเท้าสะเอว และการปักเข็ม จะมีฟองอากาศลอยอยู่บนและดันยาจนหมด ให้ฟองอากาศไปแทนที่ใน dead space ก็จะได้ยาหมดตามจำนวนแน่นอน ไม่เหลือติดเข็ม การทำดังกล่าวต้องอาศัยความชำนาญ

ส่วนเวลาดึงเข็มออก บางครั้งจะมีน้ำยาไหลตามรูที่ฉีดออกมา วิธีการป้องกันคือฉีดแบบ Z เทคนิค คือใช้นิ้วข้างหนึ่ง โดยมากผมจะใช้นิ้วหัวแม่มือของข้างซ้ายดันผิวหนังให้เคลื่อนลงมา เพียงใช้นิ้วชี้เกาะไว้เฉยๆ แล้วเมื่อดึงเข็มออก ปล่อยหัวแม่มือ ผิวหนังที่ถูกดึงให้เลื่อนออกมา จะเลื่อนไปปิดรูที่ฉีด (เราฉีดเข้ากล้าม) ผิวหนังเคลื่อนที่ได้อยู่แล้ว จะเคลื่อนไปปิดตำแหน่งรูที่กล้ามเนื้อเอง ทั้งนี้ ในการฉีดวัคซีนไม่มีความจำเป็นต้องดึงหลอดฉีดยาหรือทดสอบว่าเข้าเส้นเลือดหรือไม่ (ไม่ต้อง draw back) เมื่อเข็มปักเข้ากล้ามเนื้อแล้ว เดินยาได้เลย เพียงสังเกตที่หัว syringe ทุกครั้งว่ามีเลือดย้อนมาที่หัว syringe หรือไม่ก็พอ เพราะตำแหน่งที่เราฉีดไม่มีเส้นเลือดใหญ่อยู่แล้ว