ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองนายกฯ-รมว.สธ.เผยกรณีข้อเสนอเปิดประเทศ เปิดจังหวัด ยังเป็นข้อเสนอ ต้องพิจารณาอีก เหตุฉีดวัคซีนโควิดยังต้องรอพูมิคุ้มกันขึ้น แต่เตรียมแผนกระจายวัคซีน 8 แสนโดส วางเป้าลุยฉีดประชาชนทั่วไป พื้นที่เศรษฐกิจ จุดเสี่ยง

 

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแผนบริหารจัดการวัคซีนที่เพิ่งได้รับมาจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 8 แสนโดสระบุว่า ปัจจุบัน ยังพบการเกิดขึ้นของคลัสเตอร์ใหม่อยู่เรื่อยๆ แต่อยู่ในจุดที่ควบคุมได้ รู้ที่มาที่ไป ซึ่งก็ส่งผลกระทบให้ต้องปรับแผนการให้บริการวัคซีนตามมา อันที่จริง แผนของไทย จะให้บริการวัคซีนเดือนมิถุนายน 2564 แต่เมื่อเกิดการระบาดที่จังหวัดสมุทรสาคร จึงได้ปรับการทำงาน ให้บริการวัคซีนเร็วขึ้น จากนี้ จะได้รับวัคซีนอีก 1 ล้านโดส และอาจได้มากกว่านั้นด้วย ชัดเจนว่า การควบคุมโรคของไทยมีความยืดหยุ่นทันสถานการณ์ และการจัดหา คำนึงถึงเรื่องความเหมาะสมในการปฏิบัติจริงด้วย 

 

ส่วนวัคซีนที่ไทย เพิ่งได้รับมา 8 แสนโดส ยังเป็นการให้บริการตามแผนที่วางไว้ แต่ครั้งนี้ มีเป้าหมายว่าจะฉีดให้ประชาชนในเกณฑ์ที่กว้างขึ้น ลุยให้บริการในจังหวัดที่มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และจังหวัดที่ระบาดกว่าพื้นที่อื่น แต่จะปฏิบัติอย่างไร มีการแก้ไขหรือไม่ ต้องรอหารือในที่ประชุม การฉีดคราวนี้ จะต้องเอาให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมไปเลย แพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุขได้รับแล้ว ก็ถึงคิวของประชาชน 

เมื่อถามถึงข้อเสนอให้จัดสรรวัคซีน 9 แสนโดสให้จังหวัดภูเก็ต รองรับการคลายล็อก ฟื้นเศรษฐกิจ นายอนุทิน กล่าวว่า ในเดือนมิถุนายน ผู้ผลิต จะส่งวัคซีนให้ไทย 5 ล้านโดส จากนั้น จะได้รับเดือนละ 10 ล้านโดส การจัดสรรให้ 9 แสนโดส จึงไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็น แต่จะเปิดจังหวัดได้แค่ไหน ต้องรอดูความเหมาะสมด้วย เพราะมีหลายปัจจัยให้ต้องคำนึงถึง ภาครัฐ ต้องการให้เศรษฐกิจเดินหน้าแน่นอน แต่ความปลอดภัยก็สำคัญ 

 

"เรื่องการเปิดประเทศ เปิดจังหวัด ยังเป็นแผนการ มีการเสนอว่าให้เริ่มในเดือนกรกฎาคม บางจังหวัด รับนักท่องเที่ยว ไม่ต้องกักตัว ภาครัฐ ก็รับข้อเสนอไปพิจารณา แต่อย่าลืมว่า หลังได้รับวัคซีน ต้องรออีกระยะหนึ่ง กว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันขึ้น ยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องคำนึงถึง ภาครัฐเข้าใจความต้องการของประชาชน แต่ก็ต้องตระหนักในเรื่องสุขภาพด้วย"