ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายงดเหล้า จี้ตำรวจ ปรับหนักแก๊งดื่มเหล้าบนรถสายตรวจ มีตำรวจขับให้ในขบวนแห่งานบวช ชี้ความผิดสำเร็จไม่ใช่แค่ตักเตือน

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา กล่าวถึงกรณีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เต้นรำอยู่บนท้ายรถกระบะ ซึ่งเป็นรถสายตรวจแห่งหนึ่ง ในจ.นครสวรรค์ จนกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางทั้งในแง่ความผิดตามกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใช้ทรัพย์สินส่วนราชการมามีส่วนให้เกิดการกระทำความผิด รวมไปถึงละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ว่า แม้เรื่องที่เกิดขึ้น ล่าสุดมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ทางเครือข่ายฯเห็นว่าเรื่องนี้ถือเป็นการเย้ยหยันการบังคับใช้กฎหมายอย่างมาก ภาพคนดื่ม เมาสุรากันในท้ายกระบะรถสายตรวจของตำรวจ ซึ่งคือผู้บังคับใช้กฎหมายด้วย มันน่าอนาถใจ

นายคำรณ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว เป็นความผิดซึ่งหน้าด้วย ในภาพมีคลิปบุคคลที่ทำความผิดชัดเจน ดังนั้นทุกคนที่ดื่มสุราบนรถ ขณะอยู่บนทาง ไม่ว่ารถคันนั้นจะวิ่งหรือจอด เป็นความผิดตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องกำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง พ.ศ. 2558 ออกตามความในพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 4 มาตรา 27 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

“บุคคลที่อยู่ในภาพต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด แต่ที่ปรากฏในข่าวว่า ได้มีการว่ากล่าวตักเตือนเพียงเท่านั้น ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้า เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ด้วย จึงอยากให้กฎหมายศักดิ์สิทธิไม่ใช่ใครจะละเมิดอะไรก็ได้ ยิ่งผู้บังคับใช้กฎหมายอยู่ในเหตุการณ์ซึ่งหน้าด้วย สะท้อนว่าผู้กระทำมิได้ยำเกรงเจ้าพนักงานแต่อย่างใด และเราจะติดตามต่อไปว่ากรณีนี้จะมีการบังคับใช้กฎหมายแค่ไหน และผลการตั้งกรรมการสอบตำรวจในเหตุการณ์จะจบแบบไหน หากพบว่ามีการช่วยเหลือ หรือหย่อนยานเราจะยื่นเรื่องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติแน่นอน”นายคำรณ กล่าว

ด้าน ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ภาคีเครือข่ายพยายามรณรงค์งานบวช งานประเพณีที่ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา เพราะนอกจากการไม่สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายแล้ว ยังถือเป็นการให้เกียรติเจ้าของงาน เจ้าภาพด้วย เพราะทั้งหมดทั้งปวงที่ท่านจัดนี้คืองานบุญ เหตุใดจึงจะเอาความสนุกสนานรื่นเริงเฉลิมฉลองกันเกินขอบเขต ขาดสติเพราะน้ำเมา มาทำลายเจตนารมณ์ที่ดีของผู้จัดงาน ปัจจุบันยังพบงานบวชงานประเพณีที่มีการกินดื่มน้ำเมากันไม่น้อย โดยเฉพาะงานบวชที่เริ่มตั้งแต่ในขบวนแห่ ยันเข้าวัด หลายแห่งแอบเข้าไปกินในวัด ทั้งที่รู้ว่าผิดกฎหมายชัดเจน

จึงอยากเชิญชวนเจ้าของงาน เจ้าภาพงานบวช งานบุญประเพณีต่าง ร่วมกันจัดงานที่ปลอดจากน้ำเมากันเถอะ ได้บุญกว่า ไม่เดือดร้อนใคร พนักงานเจ้าหน้าที่ก็ไม่เดือดร้อน ประหยัดเงินด้วย และที่สำคัญในช่วงเวลานี้ อย่าปล่อยให้งานบวช กลายเป็นแหล่งสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิด-19 ซ้ำเติมความทุกข์ยากลำบากของผู้คน