ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุขเผยกระจายวัคซีน 8 แสนโดส 1 เม.ย.แล้ว ขณะที่ล็อต 1 ล้านเข้ามาวันที่ 10 เม.ย. พร้อมฉีด 16-17 เม.ย. พร้อมชวนประชาชนใช้ไลน์ออฟฟิสเชียล “หมอพร้อม” และเตรียมเปิดแอปพลิเคชัน 1 พ.ค.ในระบบแอนดรอยด์

เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการกระจายวัคซีนโควิดทั่วประเทศ พร้อมใช้ไลน์ออฟฟิสเชียล “หมอพร้อม” ในการติดตามข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด19 ว่า สำหรับสถานการณ์โควิดขณะนี้ ถือว่าเป็นระดับที่ควบคุมได้ ซึ่งมีลักษณะการติดเชื้อประปรายเป็นรายวัน แต่ไม่มีการแพร่ระบาดรุนแรง ประกอบกับมีการสั่งซื้อวัคซีน 2 ชุดใหญ่ โดยชุดแรกจากซิโนแวคจากจีน 2 ล้านโดส และจากแอสตราเซเนกา 61 ล้านโดส และเมื่อเดือนมี.ค. 2 แสนโดส ปัจจุบันฉีดได้จนครบถ้วนตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาได้มาอีก 8 แสนโดส และวางแผนกระจาย 1 เม.ย.นี้ และอีก 1 ล้านโดสจะมาประมาณวันที่ 10 เม.ย.นี้ ซึ่งประมาณวันที่ 16-17 เม.ย. คาดว่าจะนำวัคซีน 1 ล้านโดสกระจายและฉีดให้ประชาชนได้

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า สำหรับวัคซีน 8 แสนโดสมีวัตถุประสงค์ฉีดเพื่อควบคุมโรค และรองรับทางเศรษฐกิจ ขณะนี้ทางรัฐบาลมีจุดมุ่งหมายเปิดประเทศให้เร็วที่สุดอย่างปลอดภัย ซึ่งทุกคนจะปลอดภัย หมายถึงคนในประเทศต้องได้รับวัคซีน 50-60% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งเราได้วางแผนที่เรียกว่า สามเหลี่ยมเขยื้อนวัคซีน คือ 1. เป้าหมายในเชิงพื้นที่ ด้วยการระบุพื้นที่หลักให้เกิดภูมิคุ้มกันในระดับพื้นที่ 2.วางระบบ ปัจจุบันใช้พื้นที่ รพ. รพ.สนาม และครั้งต่อไปจะเป็นรถเคลื่อนที่ที่มีเครื่องมือทางการแพทย์เหมาะสม ปัจจุบันประมาณการณ์แต่ละ 1 รพ.จะให้วัคซีนได้ 500 รายต่อวัน หรือเดือนละไม่เกิน 10 ล้านโดส แต่หากเราเพิ่มรพ.สนาม ก็จะสามารถฉีดได้รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งภาคเอกชนก็สนับสนุนพื้นที่มา เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือโมเดิร์นเทรดต่างๆที่เสนอตัวเข้ามา และ3.ข้อมูล มีการลงทะเบียน มีระบบนัดหมายการฉีดวัคซีน การติดตามผลข้างเคียงจากวัคซีน เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีการลงทะเบียนผ่านไลน์ออฟฟิสเชียล (LINE official Account) “หมอพร้อม” หรือประชาชนที่อยู่ในภูมิภาคก็ยังมีช่องทางสามหมอ มาคอยติดตามได้

“ขอให้ประชาชนหันมาใช้ไลน์ออฟฟิสเชียลที่เรียกว่า หมอพร้อม โดยการเข้าไปคีย์ข้อมูลในระบบไลน์ออฟฟิสเชียล เพื่อทำการลงทะเบียน โดยจะใช้อย่างครอบคลุมในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาพอดี โดยการใช้ “หมอพร้อม” จะทำให้ทราบสิทธิการจองวัคซีน การนัดหมาย การติดตามอาการหลังการฉีด การนัดหมายฉีดครั้งที่ 2 และยังสามารถออกใบรับรองการรับวัคซีนในรูปแบบดิจิทัลได้ เพื่ออ้างอิงต่อไป โดยการจองสิทธิหมอพร้อม จะทำได้เดือน พ.ค. เพราะล็อตแรกของแอสตราฯที่จะผลิตในไทย ซึ่งจากหารือกับบ.แอสตราฯ ระบุว่า จะส่งมอบได้กลาง พ.ค. เพราะฉะนั้น เมื่อวัคซีนมาแล้วก็จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองเพื่อเข้ารับวัคซีนผ่านไลน์และแอปฯ หมอพร้อม ปลายเดือนพ.ค.2564เป็นต้นไป ” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี ประโนคณะทำงานด้านระบบข้อมูลการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด19 กล่าวว่า ขณะนี้มีการเตรียมข้อมูลการให้บริการวัคซีนโควิด19 ทั้งประเทศ โดยจะมีการเชื่อมข้อมูลแบบเรียลไทม์จากรพ.ทุกแห่งที่มีการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ โดยข้อมูลจะเข้ามาศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ของกระทรวงสาธารณสุข และในอนาคตจะมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.)เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งหมายถึงอนาคตจะมีหน่วยบริการกว่า 1 หมื่นแห่งมาร่วมตรงนี้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้จะทำให้ทราบว่า จังหวัดต่างๆ ฉีดวัคซีนไปแล้วเท่าไหร่ หรือมีผลข้างเคียงอย่างไร นอกจากนี้ ระบบจะมีข้อมูลกลับไปยังไลน์ออฟฟิสเชียล “หมอพร้อม” ให้กับประชาชนด้วย ทั้งระบบข้อมูลวัคซีน การจองคิว การติดตามข้อมูลต่างๆ เป็นต้น

ในส่วนของการออกวัคซีน Certificate หรือใบรับรองก็จะออกผ่านระบบดิจิทัล เป็นคิวอาร์โคด เพื่อนำไปแสดงหน่วยงานไหนก็ได้ ที่เป็นแผ่นกระดาษ เอกสารออกผ่านทางรพ.ก็มีเช่นกัน สำหรับใบรับรองการฉีดวัคซีนมาตราฐานนานาชาติที่ใช้ในการเดินทาง กำลังรอข้อมูลองค์การอนามัยโลก คาดว่าจะออกมาในช่วงเดือน มิ.ย. อย่างไรก็ตาม ในการจองสิทธิวัคซีนโควิดนั้น ประชาชนสามารถจองได้ผ่าน 4 ช่องทาง คือ ช่องทางที่ 1 คือ LINE official หมอพร้อม ช่องทางที่ 2 ผ่าน “หมอพร้อม” ที่เป็น Application ซึ่งจะเปิดให้ดาวน์โหลดได้ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ เบื้องต้นเฉพาะระบบแอนดรอยด์ก่อน ช่องทางที่ 3 คือ โทรศัพท์ติดต่อโรงพยาบาลได้โดยตรง และช่องทางที่ 4 ผ่าน อสม.ทั่วประเทศ

นพ.ศุภฤกษ์ ถวิลลาภ หัวหน้ากลุ่มสารสนเทศทางระบาดวิทยา กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า เมื่อท่านไปฉีดวัคซีนที่ รพ.ใกล้บ้าน ซึ่งทาง รพ.จะบันทึกข้อมูล และตัวเลขจะเข้ามาที่ ซึ่งจะมีการอัพเดทขึ้นแผนภูมิให้ดูว่าจังหวัดแต่ละจังหวัดมีการฉีดไปเท่าใด แยกเป็นเข็มที่ 1 เข็มที่ 2 ขณะนี้ฉีดไปแล้วกว่า 1 แสนโดส โดยเข็มที่ 2 ฉีดไปแล้วกว่า 2 หมื่นกว่าคน ซึ่ง dashboard จะแสดงข้อมูลทั้งหมดรวมถึงผลข้างเคียงที่มีรายงานเข้ามา ทั้งนี้ เมื่อท่านบันทึกผลข้างเคียง ก็จะมีข้อมูลเข้ามาเช่นกัน ดังนั้น ไม่ต้องกังวล เพราะเราติดตามผลข้างเคียงตลอด เพื่อให้ทีมเข้าไปช่วยเหลือหรือดูแลอย่างทันท่วงที