ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมการแพทย์ระดมทีมบุคลากรทางการแพทย์และจิตอาสาทุ่มเททำงานโดยไม่มีวันหยุด เผยขั้นตอนการตรวจคัดกรองและรักษาผู้ป่วยโควิด19 บูรณาการภาคีเครือข่ายจัดตั้งสายด่วน 1668,1669,1330 และ Line @saibaideebot เพื่อบริการเต็มกำลัง

เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2564 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เนื่องจากในขณะนี้มีการระบาดของโรคอย่างรวดเร็วในทั่วประเทศ มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ขอให้ประชาชนที่พบการติดเชื้อประสานกับโรงพยาบาลที่ตรวจพบเชื้อในเบื้องต้น หากโรงพยาบาลนั้น ๆ ไม่สามารถรองรับการรักษาได้ ขอให้แจ้งมายังสายด่วน COVID-19 เฉพาะกิจ โทร 1669 , 1668 , 1330 , หรือสามารถแอดไลน์และบันทึกในสบายดีบอท (LINE @saibaideebo) ซึ่งสายด่วนเหล่านี้ เป็นการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์ กรุงเทพมหานครโดยศูนย์เอราวัณ และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เช่น หากท่านเป็นผู้ป่วยที่รอเตียง เจ้าหน้าที่จะรับข้อมูลเพื่อประเมินระดับความรุนแรง พร้อมทั้งติดตามอาการทางโทรศัพท์ระหว่างรอเตียง

รวมถึงประสานหาเตียงภายในกรมการแพทย์และประสานงานไปยังสายด่วน 1669 โดยมีการบริหารเตียงและสื่อสารระหว่างสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร กรมการแพทย์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย (UHosNet) กระทรวงกลาโหม และโรงพยาบาลเอกชน ในการจัดสรรเตียงในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล เพื่อนำท่านไปยังโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

“สายด่วนดังกล่าวได้ให้บริการประชาชนในทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เป็นจิตอาสาจำนวนมากเข้ามาช่วยงาน เพื่อให้บริการประชาชนอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเพื่อให้ประชาชนได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพและกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข” นพ.สมศักดิ์ กล่าว

อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวอีกว่า หากท่านยังไม่มีอาการแสดงชัดเจน เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจะให้สังเกตอาการที่บ้าน หรือในสถานที่กักกันที่รัฐบาลกำหนดเป็นระยะเวลา 14 วัน หากผลทางห้องปฏิบัติการเป็นลบ ในกลุ่มเสี่ยง ยังมีความจำเป็นต้องกักตัวเพื่อตรวจยืนยันอีกครั้ง แต่หากผลเป็นบวกแปลว่าติดเชื้อ COVID-19 ทางเจ้าหน้าที่จะส่งข้อมูลตามมาตรฐานของการควบคุมโรคไปยังกรมควบคุมโรคและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหากเป็นผู้ป่วยในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร จะส่งข้อมูลไปยังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง พร้อมกับแจ้งผลการตรวจให้กับผู้ป่วยทราบ หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่จะประสานโรงพยาบาลเครือข่ายเพื่อจัดหาเตียงและแจ้งการเดินทางเพื่อไปรับผู้ป่วยมายังโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด ซึ่งหลักการดูแลรักษาพยาบาลจะต้องให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาในโรงพยาบาล เพื่อจะได้ไม่แพร่เชื้อต่อในครอบครัวหรือชุมชน