ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อธิบดีกรมควบคุมโรคเผยมาตรการองค์กร ภาคเอกชนช่วยสกัดโควิดหลังสงกรานต์ในบริษัท ย้ำขอให้ Work from Home หลีกเลี่ยงรับประทานอาหารร่วมกันกับเพื่อนร่วมงาน คัดกรองเข้มพนง.ที่กลับจากภูมิลำเนา ฯลฯ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 เม.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวถึงกรณีคลัสเตอร์โรงเรียนเอกชน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ว่า การระบาดระลอกนี้เริ่มจากสถานบันเทิง นักเที่ยวติดเชื้อแล้วไปติดคนที่บ้าน คนในครอบครัว จากนั้นติดในที่ทำงาน ติดในชุมชน กรณีคลัสเตอร์โรงเรียนเอกชนก็เป็นอีกตัวอย่าง จากคนติดเชื้อ 1 คน ไปติดเพื่อนทำงาน แล้วนำไปติดนักเรียน รวมแล้ว 32 ราย ซึ่งขณะนี้เมื่อติดในโรงเรียน ก็จะมีเด็กติดเชื้อ และทราบดีว่า เด็กมักไม่มีอาการ และครอบครัวไทยจะมีผู้สูงอายุ ซึ่งเด็กจะนำเชื้อไปแพร่ผู้สูงอายุได้

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า การที่ ศบค.มีการสั่งปิดสถานศึกษาก็เพื่อป้องกันการติดเชื้อเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยังพบผู้ป่วยเพิ่มต่อเนื่อง แต่แนวโน้มการระบาดเริ่มชะลอตัว ผู้ป่วยอาการรุนแรงและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยทำงาน มีกิจกรรมมาก ที่สำคัญมีแนวโน้มเริ่มระบาดไปหน่วยงานอื่นๆ ทั้งโรงเรียน องค์กร สถานประกอบการ สิ่งสำคัญคือ ต้องมีมาตรการส่วนบุคคล ผู้สูงอายุต้องหลีกเลี่ยงการเดินทางหากไม่จำเป็น และป้องกันตัวเองตลอดเวลา รวมทั้งมาตรการองค์กร โดยเฉพาะWork from Home เป็นสิ่งสำคัญมาก

(ข่าวเกี่ยวข้อง : โควิดติดเชื้อ 1,767 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย พบตัวเลข 6 จังหวัดป่วยสะสมพุ่ง!)

“มาตรการ Work from Home สำคัญมาก ยิ่งหลังสงกรานต์ โดยวันจันทร์ที่ 19 เม.ย. คนจะกลับมาทำงาน หลายคนถามว่า เมื่อเปิดทำงานจะปฏิบัติตัวอย่างไร ต้องนำเรียนว่า 1.มาตรการ Work from Home 2.การคัดกรองพนักงานที่เดินทางกลับจากภูมิลำเนามากขึ้น 3.ไม่รับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งในสถานที่ทำงานจุดเสี่ยงคือ ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะตอนรับประทานอาหาร ดังนั้น ต้องงดกิจกรรมรวมกลุ่ม งานเลี้ยงสังสรรค์ของคนในองค์กร หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกันในที่ทำงาน และให้มีการประชุมระบบออนไลน์ ” นพ.โอภาส กล่าว

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญต้องเข้มสวมหน้ากากตลอดเวลา ห้ามผู้ไม่สวมหน้ากาก ทั้งพนักงานและบุคคลภายนอก เข้ามาในสถานที่ทำงาน จัดจุดแอลกอฮอล์/ล้างมือให้เพียงพอ จัดให้มีจุดคัดกรองเข้าออก สถานที่ทำงาน วัดอุณหภูมิร่างกาย จัดให้มีการประเมินความเสี่ยงของพนักงานต่อการติดเชื้อโควิดประจำทุกวัน แยกภาพชนะของใช้ส่วนตัว เช่น แก้วน้ำ และควรทำความสะอาดเครื่องมือ อุปกรณ์ที่มีคนสัมผัสจำนวนมาก เช่น ลูกบิด ก๊อกน้ำ ปุ่มกดลิฟต์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสม่ำเสมอ ให้มีการแจ้งพนักงานทราบหากมืออาการทางเดินหายใจให้พบแพทย์

นพ.โอภาส ยังให้ข้อแนะนำผู้ที่ทราบผลติดเชื้อโควิด ว่า ผู้ที่ทราบผลว่า ติดเชื้อโควิด-19 เตรียมตัวก่อนเข้า รพ.อย่างไรนั้น 1.ประเมินอาการป่วยที่อาจจะรุนแรงขึ้นด้วยตนเอง เช่น ไข้เกิน 37.5องศา หายใจหอบเหนื่อยมากขึ้น หลังออกกำลังกาย 6 นาที เช่น ท่านอนปั่นจักรยาน ถ่ายเหลวมากกว่า 5 ครั้ง และโทร แจ้งสถานพยาบาลหรือ 1668 , 1669 หรือ 1330 2.เตรียมเอกสาร บัตรประชาชน ผลตรวจโควิด 3.แยกกักจากสมาชิกครอบครัว ของใช้ ทานอาหารที่นอน 4.สวมหน้ากากตลอดเวลา และ 5. งดพูดคุยเสียงดัง งดทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว

ข่าวเกี่ยวข้อง : ปลัด สธ. สั่งใช้รูปแบบซิงเกิ้ลคอมมานด์ แก้ปัญหาเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด