สปสช.ใช้มาตรการ WFH ลดเสี่ยงติดโควิด19 ให้ จนท. ช่วยประสานหาเตียงที่บ้าน

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปรับรูปแบบดำเนินงานโดยการวางระบบประชุมออนไลน์ เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อ ระดมเจ้าหน้าที่และผู้บริหารที่ Work Form Home  ช่วยงานสายด่วน 1330 จัดหาเตียงและโทรติดตามอาการผู้ป่วยทุกๆ 6 ชั่วโมงจนกว่าจะได้เตียง

วันที่ 25 เม.ย. 2564 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด โดยให้เจ้าหน้าที่ส่วนกลางทุกระดับ ในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร รอยต่อ จ.นนทบุรี ปฏิบัติงานที่บ้าน ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2564 เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ในส่วนของ สปสช.เขตที่อยู่ในพื้นที่อื่นๆ ให้ดำเนินการในทิศทางเดียวกัน

"การ Work From Home เป็นหนึ่งในมาตรการลดการเดินทางบุคคลที่ช่วยชะลอการแพร่ระบาดได้ นอกเหนือจากดำเนินงานตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว ยังต้องปฏิบัติตัวเพื่อเป็นตัวอย่างแก่ประชาชน และเราขอเชิญชวนให้หน่วยงานองค์กรอื่นๆ นำมาตรการนี้มาปฏิบัติให้มากขึ้น หากทุกองค์กรให้ความร่วมมือลดการเดินทางของพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ในองค์กร และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตัวอื่นๆอย่างเข้มข้น อาทิ การใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่างทางสังคม จะช่วยควบคุมการระบาดได้เร็วขึ้น สถานการณ์โดยรวมจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้นตามไปด้วย"นพ.จเด็จ กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวว่า การ Work From Home จะไม่กระทบต่อการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือการให้บริการแก่ประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยใช้มาตรการนี้มาแล้วและได้วางระบบรองรับการทำงานที่บ้านไว้แล้ว
“แม้ว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของ สปสช. จะปฏิบัติงานที่บ้าน แต่การดำเนินงานต่างๆ ภายใต้กองทุนบัตรทองยังคงเดินต่อเนื่อง เพียงแต่ปรับรูปแบบดำเนินงานภายในสำนักงานและภายนอกสำนักงานตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการประชุมบอร์ด สปสช. การประชุมบอร์ดควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน รวมถึงการประชุมคณะกรรมการและอนุกรรมการชุดต่างๆ มีการวางระบบประชุมออนไลน์โดยไม่ติดขัด การโอนงบประมาณกองทุนฯ เพื่อจัดบริการต่างๆ ยังคงต่อเนื่อง การเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการให้กับหน่วยบริการก็เป็นไปตามปกติ รวมถึงการให้บริการ Call Center หรือสายด่วน สปสช. 1330 ด้วย” นพ.จเด็จ กล่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของ สปสช.ที่ทำงานที่บ้านยังได้รับมอบหมายภารกิจให้เสริมกำลังทีมงานสายด่วน 1330 อีกด้วย เนื่องจากขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้าง และสายด่วน 1330 มีหน้าที่เป็นหน่วยประสานจัดหาเตียงแก่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีเตียงรองรับ ตลอดจนโทรติดตามอาการผู้ป่วยทุกๆ 6 ชั่วโมงจนกว่าจะได้เตียง รวมถึงการโทรกลับสายที่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่รับสาย เนื่องจากมีปริมาณการโทรเข้ามาจำนวนมาก ทำให้มีบางสายไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่ง สปสช.ได้บันทึกเลขหมายโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาในระบบแล้ว และจัดบุคลากรให้โทรกลับเพื่อรับเรื่องจากประชาชนต่อไป นอกจากเจ้าหน้าที่ 1330 แล้ว สปสช.ยังระดมเจ้าหน้าที่และผู้บริหารทั้งส่วนกลางและเขตที่ WFH มาช่วยกันโทรและรับสายทำให้การให้บริการช่วยเหลือผู้ป่วยมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น