ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองนายกฯ- รมว.สธ. เผยยาฟาวิพิราเวียร์ถึงไทย 2 ล้านเม็ด และพ.ค.นี้จะได้รับเพิ่มอีก 1 ล้านเม็ด รวมทั้งให้ อภ.จัดหาเพิ่มอีก “อนุทิน” เผยกรณีแนวคิดการทำซีแอลยายังไม่มี ใช้วิธีเจรจาอื่น

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ยาฟาวิพิราเวียร์สำหรับรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 2 ล้านเม็ด ที่จัดส่งจากสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบิน NH 8545 มาถึงประเทศไทยแล้วเมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (26 เมษายน 2564) ได้สั่งการให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เร่งกระจายจัดส่งให้สถานพยาบาลเครือข่ายต่าง ๆ ทั่วประเทศภายในบ่ายวันนี้ ตามการจัดสรรของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) และภายในเดือนพฤษภาคมนี้ จะได้รับเพิ่มอีกจำนวน 1 ล้านเม็ด รวมเป็น 3 ล้านเม็ด เป็นไปตามแผนการจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ที่กำหนดไว้ รวมทั้งให้ อภ. จัดหาเพิ่มอีก 2-3 ล้านเม็ดโดยเร็ว

เมื่อถามว่ากระทรวงสาธารณสุขมีแนวคิดในการทำเรื่องสิทธิเหนือสิทธิบัตรยา (CL) ยาฟาวิพิราเวียร์หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เวลาทำซีแอลยาจะมีผลกระทบภายหลังเยอะ อยู่ดีๆ ไปยึดลิขสิทธิ์เขามา แล้วต่อไปจะมีใครเขามาลงทุนในประเทศ เราต้องพยายามหาวิธีทางเจรจา เช่น ให้มาลงทุนในประเทศไทยหรือไม่ หรือการซื้อลิขสิทธิ์ จากอินเดีย จีน เป็นต้น ตอนนี้มีแนวคิดอยู่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้องค์การเภสัชกรรมยังมีแหล่งที่สามารถจัดซื้อยาฟาวิพิราเวียร์จากหลายแหล่ง และมีสารตั้งต้นอยู่ นี่คือความมั่นคงที่ทำให้มั่นใจว่ายาฟาวิพิราเวียร์จะไม่ขาดตลาด และสามารถหามาให้คนไทยได้

“ทุกวันนี้เรามีการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ประมาณวันละ 2 หมื่นเม็ด จากที่มีสต็อกอยู่ 6 แสนเม็ดก็จัดหาเพิ่มมาเป็น 2 ล้านเม็ดจากนี้จะมีการจัดทำแบบโรลลิ่งหรือให้ยามีการหมุนเวียนระบบ 2 ล้านเม็ดทุกเดือนๆ เอาไว้ก่อน แต่หวังว่าจะไม่ต้องอยู่ในระดับนี้นาน ประมาณ 2-3 เดือน ทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม” นายอนุทิน กล่าว