ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก


สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งสายด่วน 6 สาย ติดต่อสอบถามในการเบิกจ่ายเงิน เดิมอาจตอบกลับใน 1-2 วัน แต่ 6 สายนี้ตอบกลับในทันที ช่วยลดความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลตั้งแต่ต้นทาง และความกังวลหรือข้อติดขัดด้านการเงิน รพ.ได้รับเงินค่าบริการเร็วขึ้น  

วันที่ 27 เม.ย. 64 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  กล่าวว่า หลังจากที่ได้ปรับระบบการจ่ายเงินชดเชยค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลและหน่วยบริการต่างๆ จากเดิมที่มีรอบการจ่ายทุก 1 เดือน เป็นทุกๆ 15 วัน หรือเดือนละ 2 ครั้ง ในอนาคตจะมีการปรับให้เร็วขึ้นอีก เพื่อเพิ่มสภาพคล่องแก่หน่วยบริการ โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งเมื่อมีสภาพคล่องดีขึ้น ทำให้มีความคล่องตัวในการรับมือการระบาดของโรคโควิด ได้มากขึ้น โดยจะเริ่มวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป ในส่วนของงบรักษาผู้ติดเชื้อโควิด กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิทุกที่” หรือ UCEP และ UCEP COVID นั้น มีการเบิกจ่ายให้โรงพยาบาลทุกๆ 15 วัน อยู่แล้ว

ทั้งนี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้จัดตั้งสายด่วนจ่ายเงินเร็วหรือ Health Desk ซึ่งจะเป็นคลินิกให้คำปรึกษาแก่โรงพยาบาล ตลอดจนคำแนะนำการเบิกจ่ายเงินชดเชยค่าบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำหรับให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหรือหน่วยบริการอื่นๆ โทรศัพท์ติดต่อสอบถามปัญหาข้อสงสัยในการเบิกจ่ายเงิน ขึ้นมา 6 เลขหมาย ประกอบด้วย 02-142-3100 ถึง 3, 061-402-6368 และ 090-197-5129

สำหรับสายด่วนทั้ง 6 สายนี้ มีลักษณะการตอบข้อสงสัยต่างๆ แบบทันที เช่น เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสงสัยว่า รายการนี้จะบันทึกในรายการขอเบิกจ่ายอย่างไร เดิมอาจตอบกลับใน 1-2 วัน แต่ระหว่างนั้นโรงพยาบาลอาจจะส่งเบิกมาแล้ว เมื่อมาตรวจดูก็พบว่าไม่ถูกต้อง ต้องเสียเวลากลับไปบันทึกรายการมาใหม่ ทำให้การจ่ายเงินล่าช้าออกไป แต่สายด่วนทั้ง 6 สายนี้ เมื่อมีข้อสงสัยถามมาจะตอบกลับทันที รวมถึงให้ข้อแนะนำอื่นๆ ที่จะทำให้การบันทึกในระบบการเบิกจ่ายเงินได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งตะช่วยลดความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลตั้งแต่ต้นทาง โรงพยาบาลก็จะได้รับเงินค่าบริการเร็วขึ้น

นพ.จเด็จ ย้ำว่า การรับมือการระบาดของโรคโควิดในครั้งนี้ จะพยายามสนับสนุนการให้บริการของโรงพยาบาลต่างๆ เช่น ปรับปรุงแนวทางปฏิบัติการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการตรวจคัดกรอง การรักษาผู้ที่ติดเชื้อ การใช้จ่ายในการรับส่งผู้ป่วย รวมทั้งค่าใช้จ่ายสำหรับโรงพยาบาลสนาม และ Hospitel เป็นต้น รวมถึงการปรับรอบการจ่ายกรณีการคัดกรองสำหรับผู้ป่วยนอก (OPD) ให้จ่ายเร็วขึ้นเป็นทุกๆ 15 วัน ซึ่งจะทำให้โรงพยาบาลที่ดูแลมีกระแสเงินสดสามารถนำไปหมุนเวียนเพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วย โดยไม่กระทบการบริหารจัดการในส่วนอื่นๆ ของโรงพยาบาล ตลอดจนการจัดตั้งสายด่วนจ่ายเงินเร็ว ทั้งหมดมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่โรงพยาบาลให้มากที่สุด ลดความกังวลหรือข้อติดขัดด้านการเงิน เพื่อที่โรงพยาบาลจะได้ทุ่มเทกับการรักษาผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนของโรงพยาบาลเอกชน เนื่องจาก สปสช. ร่วมเป็นหน่วยงานจัดหาเตียงให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วย ขอให้มั่นใจว่าผู้ติดเชื้อที่สายด่วน สปสช. 1330 ประสานขอเตียงให้นั้นเป็นไปตามหลักเกณฑ์เบิกจ่ายค่าชดเชย ทางโรงพยาบาลจะได้รับค่าใช้จ่ายในการรักษาอย่างแน่นอน

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง