ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ศบค.เผยผลตรวจเชื้อ กทม. ปริมณฑล ตั้งแต่ 1 เม.ย. ตรวจสะสม 2.2 แสนราย เจอติดเชื้อสะสมแล้ว 4,024 ราย คิดเป็น 1.83% ลุยตรวจเชิงรุกต่อเนื่อง ทั้งคลองเตย ปทุมวัน ดุสิต ประตูน้ำ แฟลตดินแดง ตลาดโบ๊เบ๊ ย้ำ! คนที่สงสัยว่าติดเชื้อหรือเป็นกลุ่มเสี่ยง ขอให้หยุดอยู่ที่บ้าน ลดการเคลื่อนย้าย ทำงานที่บ้าน ใส่หน้ากากตลอดเวลา

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยติดเชื้อ 2,101 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,086 ราย โดย 10 อันดับที่ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1. กทม. 980 ราย ยอดสะสม 19,009 ราย 2.นนทบุรี 221 ราย สะสม 3,470 ราย 3.สมุทรปราการ 108 ราย สะสม 3,124 ราย 4.ชลบุรี 96 ราย สะสม 3,296 ราย 5.สมุทรสาคร 95 ราย สะสม 1,471 ราย 6.สุราษฎร์ธานี 50 ราย สะสม 1,120 ราย 7.ระนอง 48 ราย สะสม 427 ราย 8.จันทบุรี 38 ราย สะสม 405 ราย 9.ปทุมธานี 31 ราย สะสม 1,223 ราย และ 10.ประจสบคีรีขันธ์ 28 ราย สะสม 1,295 ราย

"พอดูแผนภูมิประเทศไทย จะพบว่า ตั้งแต่วันที่ 5-8 พ.ค. พื้นที่สีเขียวที่มีผู้ติดเชื้อ 1-10 รายต่อวัน ดูทรงๆ โดยวันนี้พบ 40 จังหวัด สีขาวไม่มีผู้ติดเชื้อพบ 11 จังหวัด สีเหลือง ติดเชือ้ 11-50 ราย มี 21 จังหวัด ส่วนส้ม 51-100 ราย และสีแดงมากกว่า 100 ราย ยังกระจุกตัวตาม กทม. และปริมณฑล รวมกัน 5 จังหวัด" นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า กทม.และปริมณฑล 5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี สมุทรสาคร และนครปฐม ติดเชื้อ รวม 1,457 ราย เกินครึ่ง โดย 71 จังหวัดอยู่ที่ 629 ราย ความต้องการเตียงและ รพ. โดยคนไข้มีอาการหนัก ปอดอักเสบเพิ่มขึ้น ของ กทม.จากเดิม 400 กว่าราย เป็น 500 กว่าราย จังหวัดอื่นๆ จาก 2 หลักเป็น 3 หลัก ส่วนการเสียชีวิต บางวัน กทม.มี 2 หลัก คือ 18 ราย ที่เหลือเป็นหลักเดียวแต่ขึ้นๆ ลงๆ

"การรายงานวันที่ 8 พ.ค.ของ กทม.จำนวน 1,112 ราย มีทั้งหมด 10 เขตที่มีตัวเลขสูง คือ ป้อมปราบศัตรูพ่าย 31 ราย คลองเตย 19 ราย ปทุมวัน 18 ราย ดินแดง 14 ราย ลาดพร้าว 12 ราย ราชเทวี 11 ราย ห้วยขวาง 11 ราย จตุจักร 10 ราย วัฒนา 10 ราย วังทองหลางอีก 9 ราย นี่คือท็อปเทนของเขตทั้งหมด 50 เขต รายละเอียดในการอธิบายเป็นคลัสเตอร์กลุ่มก้อน บางอันเป็นของเก่า เช่น บางแค" นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ศูนย์บูรณาการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด กทม.และปริมณฑลเอาตัวเลขเหล่านี้มาดู ซึ่งตอนนี้กลยุทธ์สำคัญคือการตรวจเชิงรุกมากๆ ในพื้นที่เป้าหมาย นำคนป่วยแยกจากคนปกติ ผลงานที่ผ่านมาตั้งแต่ 1 เม.ย. - 8 พ.ค. โดยเมื่อวาน กทม.ตรวจรายวันถึง 6,869 ราย พบเชื้อ 241 ราย รอผล 7,377 ราย คิดเป็น 3.52% ที่ติดเชื้อ ตรวจสะสม 107,366 ราย พบเชื้อ 2,874 ราย อัตราติดเชื้อ 2.68% ส่วนปริมณฑล 5 จังหวัด เมื่อวานตรวจ 1,327 ราย พบ 13 ราย สะสม 113,040 ราย พบเชื้อ 1,150 ราย คิดเป็น 1.02% รวม กทม.ปริมณฑลตรวจเมื่อวาน 8,196 ราย ติดเชื้อ 254 ราย สะสมตรวจ 220,406 ราย ติดเชื้อ 4,024 ราย คิดเป็น 1.83%

"ตัวเลขเหล่านี้จะต้องเอามาบริหารสถานการณ์ จะกระจายหรือเจาะเฉพาะกลุ่ม ตัวเลขเหล่านี้สำคัญ จะใช้วิธีติดตามสัมผัสเสี่ยงสูง ค้นหาเชิงรุก คัดกรองเชิงรุก ออกแบบวิธีการหาผู้ป่วยโดยเร็วที่สุด" นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ฉีดสะสม 1,743,720 โดส เข็มแรก 1,273,666 ราย และเข็มสอง 470,054 ราย โดยฉีดเข็มแรกแล้วส่วนใหญ่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ 6.3 แสนกว่าคน เจ้าหน้าที่อื่นๆ 1.8 แสนกว่าคน อายุ 60 ปีขึ้นไป 4.3 หมื่นคน โรคประจำตัว 7.5 หมื่นคน และประชาชนพื้นที่เสี่ยง 3.43 แสนคน ฉีดไปล้านกว่าคนยังไม่เกิดผลข้างเคียงรุนแรงแต่อย่างใด เพื่อสร้างความมั่นใจประชาชนที่ตั้งคำถาม ที่รอ สูงอายุฉีดดีไหม ตอนนี้ฉีด 4.3 หมื่นราย โรคประจำตัว 7.5 หมื่นรายก็ไม่ได้เป็นประเด็นอะไร

เมื่อถามว่า กทม.จะมีมาตรการตรวจหาผู้ติดเชื้ออย่างไรในชุมชนเพื่อให้คนในพื้นที่สบายใจขึ้น นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า เราเชื่อว่ายังมีคนต้องการการตรวจจำนวนมาก คนที่สงสัยว่าติดเชื้อหรือเป็นกลุ่มเสี่ยง ขอให้หยุดอยู่ที่บ้าน ลดการเคลื่อนย้าย ทำงานที่บ้าน ใส่หน้ากากตลอดเวลา เราวางแผนว่า ชุมชนคลองเตยที่มีความชุกสูงใน 39 ชุมชน ตรวจเชิงรุกต่อเนื่องทุกวัน ปทุมวัน ชุมชนบ่อนไก่ การเคหะบ่อนไก่ ความชุกสูง 3 ใน 6 ชุมชน ยังอยู่ต่อเนื่องเพื่อตรวจเชิงรุก แยกกักผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เขตดุสิต อยู่ที่ชุมชนบ้านญวนฯ สะพานขาว และหลังบ้านมนังคศิลา จะไปตรวจเชิงรุกเริ่มวันนี้ 9-11 พ.ค. รอเข้าไปตรวจได้เลย , ประตูน้ำ เขตราชเทวี ตรวจ 11 พ.ค. ชุมชนแฟลตดินแดง ชุมชนย่านพระราม 9 จะตรวจเชิงรุกวันที่ 10-11 พ.ค. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ย่านตลาดโบ๊เบ๊ จะตรวจวันที่ 11 พ.ค. เป็นตารางคร่าวๆ เขตอื่นอาจมีมากกว่านี้ ขอให้ติดตามจาก กทม.เพิ่มเติม

"เมื่อสัมผัสคนป่วยก็เป็นคนเสี่ยง สิ่งที่แนะนำ โรคนี้ติดต่อจากการใกล้ชิดกัน มีละอองฝอยของน้ำลาย สารคัดหลั่งออกมาทางปากจมูกกระจายไป ต้องระวังคืออยู่ห่างไว้ ใส่แมสก์กัน หมั่นล้างมือ ถือหลักสะอาด ปราศจากการอยู่ที่แออัด เป็นพื้นฐานที่เราต้องทำกัน ถ้ามีอาการ ไม่ต้องรอให้มาตรวจในพื้นที่ ขอให้ไปสถานพยาบาลที่ใกล้บ้านที่สุด บอกเลยว่ามีอาการและสัมผัสเสี่ยงสูง จะได้รับการบริการโดยเร็ว ถ้าไม่มีอาการให้อยู่ที่บ้าน รอตรวจเชิงรุกเข้ามา ถือเป้นข้อแนะนำที่ขอให้ทำอย่างเคร่งครัด" นพ.ทวีศิลป์กล่าว

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ตอนนี้คนหายป่วยจำนวนมาก แต่มีหลายที่เป็นสถานที่ทำงาน รู้ว่ามีพนักงานป่วยไข้แล้ว ก็ปิดสำนักงาน จำนวนครบแล้วค่อยมาเปิด ปรากฏว่าถูกตราบาปชี้เป็นพื้นที่เสี่ยง น่ารังเกียจกังวล เปิดขึ้นมาต้องขอใบรับรองแพทย์ให้มั่นใจก่อน ถ้าครบระยะเวลาและการตรวจโดยทางพื้นที่ และทำตามมาตรการสาธารณสุขแล้ว ขอให้ให้โอกาสคนที่ทำงานป่วยไข้กลับมาทำงานได้ การรักษาก็เป็นไปตามมาตรฐานขอให้มั่นใจ เราจะได้อยู่ในสังคมได้ร่วมกัน เป็นโรคที่รักษาได้หาย