ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อาจารย์จุฬาฯ เผยวัคซีนโควิดเป็นทางรอดหยุดระบาด ขณะที่ไทยยังพบสายพันธุ์อังกฤษมากที่สุด 95-97% ส่วน “สายพันธุ์อินเดีย” ที่พบในแคมป์ก่อสร้างหลักสี่ สิ่งสำคัญต้องควบคุมให้เร็ว ส่วนความรุนแรงและจะมีผลต่อวัคซีนมากน้อยแค่ไหนอยู่ระหว่างติดตามศึกษา แต่ล่าสุดนายกฯอังกฤษ ยืนยันวัคซีนแอสตราฯ ป้องกันสายพันธุ์อินเดียได้

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2564 มีการเสวนาเรื่องโควิด-19 กับความกลัว กลัวโควิด กลัววัคซีน กลัวอด จัดโดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ โดย ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สิ่งที่จะหยุดการระบาดโควิด19 ได้ คือ การฉีดวัคซีนให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในประชากรอย่างน้อยร้อยละ 70 หรือ 50 ล้านคน โดยฉีด 100 ล้านโดส ให้เสร็จภายในปีนี้ สำหรับความรุนแรงของโรคโควิด-19 นั้น ตนเห็นคนไข้จำนวนมากพอสมควร จะทำให้ปอดบวม ไม่สามารถแลกออกซิเจนได้ แล้วเราเห็นความทรมานของคนไข้แล้ว บอกได้เลยว่า ฉีดวัคซีนดีกว่า แม้วัคซีนฉีดแล้วมีไข้ แต่หากได้เห็นคนไข้ต้องนอนคว่ำ โดยเฉพาะคนอ้วนจะทรมานมาก แล้วหากต้องใส่ท่อช่วยหายใจด้วยเพื่อยื้อชีวิตเป็นเรื่องน่ากลัวมาก สำหรับอัตราการตายของโรคโควิด-19 พบว่า คนไข้ 100 คน เสียชีวิต 2-3 คน ก็ถือว่าสูงมาก โดยผู้สูงอายุมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าคนอายุน้อย ยิ่งอายุมากยิ่งเสียชีวิตมาก ส่วนคนอายุน้อยเสียชีวิตน้อยมาก และหากปล่อยให้โรคนี้ระบาดต่อเนื่อง ก็เชื่อว่า จะทำให้อายุเฉลี่ยของคนทั่วโลกลดลง เพราะทำให้ตายก่อนวัย อายุเฉลี่ยจึงลดลง

ศ.นพ.ยง กล่าวถึงสายพันธุ์ของโควิดที่แพร่ระบาดในไทย ว่า การระบาดในกรุงเทพฯและปริมณฑลในขณะนี้ พบว่าเป็นสายพันธุ์อังกฤษ ร้อยละ 96-97 และล่าสุดที่สร้างความแตกตื่นอย่างมโหฬาร คือ การพบสายพันธุ์อินเดีย ในแคมป์คนงานหลักสี่ โดยสายพันธุ์อินเดียมีการระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อังกฤษ เราต้องควบคุมให้เร็ว ส่วนความรุนแรงและจะมีผลต่อวัคซีนมากน้อยเพียงใดก็อยู่ในระหว่างการติดตามศึกษา และวินิจฉัยให้เร็ว

“สำหรับเรื่องวัคซีนของคนไทยนั้น ต้องยอมรับว่า เมื่อไม่มีวัคซีน ก็ร้องหาวัคซีน พอมีวัคซีน ก็จะเลือก เช่น ฉีดซิโนแวคเข็มแรก ส่วนเข็มสองจะขอฉีดแอสตราเซเนกา เมื่อมีวัคซีนทางเลือกเข้ามา ก็จะขอฉีดวัคซีนทางเลือก ทั้งโมเดอนา ไฟเซอร์ เป็นต้น ซึ่งเราคงไม่สามารถปิดกั้นความต้องการของคนไทยได้ ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต้องเร่งศึกษาวิจัยเพื่อให้ความรู้กับประชาชน โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนเข็มที่สาม ควรจะฉีดในช่วงระยะเวลาใดจึงจะเหมาะสม เช่น หลังฉีดเข็มที่สองแล้ว 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งศึกษาวิจัยอยู่” ศ.นพ.ยง กล่าว

เมื่อถามถึงความรุนแรงของสายพันธุ์อินเดียและวัคซีนที่ไทยใช้อยู่ทั้ง 2 ตัวได้แก่ ซิโนแวค กับ แอสตราเซเนกา จะสามารถป้องกันได้หรือไม่นั้น ศ.นพ.ยง กล่าวว่า สายพันธุ์อินเดียระบาดที่ประเทศอังกฤษก่อนประเทศไทย ขณะนี้อังกฤษก็กลัวมากว่า สายพันธุ์อินเดียจะแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์อังกฤษ แต่เมื่อศึกษาในรายละเอียดแล้ว ก็พบว่า สายพันธุ์อินเดียไม่ได้รุนแรงไปกว่าสายพันธุ์อังกฤษ แต่ระบาดได้เร็วกว่า ส่วนประสิทธิภาพของวัคซีนนั้น นายบอรีส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ก็แถลงข่าวยืนยันว่า วัคซีนที่อังกฤษใช้คือ แอสตราเซเนกา สามารถป้องกันสายพันธุ์อินเดียได้

อ่านเพิ่มเติม : ข้อมูลอังกฤษเผย "สายพันธุ์อังกฤษ" ไม่ดื้อต่อวัคซีน โดยเฉพาะแอสตราเซเนกา