ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรค เผยแนวปฏิบัติในการออกหนังสือรับรองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน กรณีโรคโควิด 19 เพื่อใช้สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ตามที่ประเทศไทยได้เริ่มมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ให้กับประชาชน ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา โดยผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนจะได้รับเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ของประเทศไทยจากสถานพยาบาลที่ให้บริการ และหากมีความประสงค์จะเดินทางไปต่างประเทศ สามารถขอรับหนังสือรับรองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค กรณีวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 เพื่อใช้สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศได้เช่นกัน

สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ให้ครบถ้วนก่อน เพื่อให้ได้เอกสารรับรองการได้รับวัคซีนฯ ของประเทศไทย ส่วนเอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ในการขอหนังสือรับรองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด 19 เพื่อใช้สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ (เล่มเหลืองโควิด) มีดังนี้

1. หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุการใช้งานเหลือมากกว่า 6 เดือน (ตัวจริงและสำเนา)

2. บัตรประชาชน (ตัวจริงและสำเนา)

3. เอกสารรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ของประเทศไทย ที่ยืนยันได้ว่าบุคคลนั้น ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ครบถ้วนแล้ว (ตัวจริงและสำเนา)

4.ค่าใช้จ่ายในการออกเอกสารรับรองฯ 50 บาทต่อเล่ม ส่วนกรณีให้ผู้รับมอบอำนาจดำเนินการแทน ต้องใช้เอกสารเพิ่มเติมอีก 2 รายการ ดังนี้ หนังสือมอบอำนาจฉบับจริง (ผู้มอบอำนาจ 1 คนต่อ 1 ฉบับ) และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (ตัวจริงและสำเนา)

ปัจจุบันสามารถขอหนังสือรับรองฯ ได้ที่ 4 หน่วยงานในสังกัดกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ 1.สถาบันบำราศนราดูร จังหวัดนนทบุรี โทร 0 2951 1170 ถึง 79 ต่อ 3430 2.สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรุงเทพฯ โทร 0 2521 1668 3.ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ อีเมล porthealth_bbk@ddc.mail.go.th และ 4.กองโรคติดต่อทั่วไป อาคาร 5 ชั้น 6 กรมควบคุมโรค จังหวัดนนทบุรี โทร 0 2590 3232, 0 2590 3234 ถึง 35 หรืออีเมลtravelhealth@ddc.mail.go.th โดยติดต่อไปยังหน่วยงานข้างต้น เพื่อนัดหมายหรือยื่นเอกสารหลักฐานล่วงหน้า สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

เรื่องที่เกี่ยวข้อง