ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ประกาศ! ระงับฉีดวัคซีนโควิด ตั้งแต่ 14 มิ.ย. เป็นต้นไป เหตุไม่ได้รับจัดสรรอีก ด้านกรมควบคุมโรคแจงข้อเท็จจริงจัดสรรแล้ว! ผ่านมหาวิทยาลัยที่ขึ้นตรงกับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย 11 สถาบัน 

 

เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ออกประกาศสืบเนื่องจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ไม่ได้รับการจัดสรร “วัคซีนหลัก” (ซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า) เพื่อให้บริการอีกต่อไป โรงพยาบาลจุฬาภรณ์จึงต้องขออภัยทุกท่านที่ไม่สามารถให้บริการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับผู้ที่ได้ลงทะเบียนผ่านระบบราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ไว้แล้ว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 14  มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป รวมถึงสถานศึกษา และหน่วยงานของรัฐที่ได้ขอติดต่อเพื่อรับการฉีดวัคซีนหลักทั้งสองชนิดด้วย

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจลงทะเบียนเพื่อมารับการฉีดวัคซีนกับเรา และขอขอบคุณจิตอาสาและเจ้าหน้าที่จากองค์กรต่างๆ ที่ให้การสนับสนุนการบริการฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์มาโดยตลอด

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอาการรุนแรงหากได้รับเชื้อ หรือมีความเสี่ยงสูงจากการติดเชื้อ ขอให้ท่านรีบลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีนกับศูนย์ฉีดวัคซีนของส่วนกลางโดยเร็วเพื่อลดการแพร่ระบาด ส่วนผู้ที่มีปัญหาในการหาสถานที่ลงทะเบียนที่อื่นและยังมั่นใจประสงค์ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนกับโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยฯ จะพยายามอย่างเต็มความสามารถในการหาวัคซีนอื่นที่มีคุณภาพมาให้บริการเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามพระปณิธานขององค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้วท่านยังสามารถมารับการฉีดเข็มที่สองได้ตามนัดหมาย

วันเดียวกัน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ออก ชี้แจงกรณีไม่ได้รับจัดสรรวัคซีน โควิด-19 ทั้งซิโนแวค และแอสตร้าเซเนก้า ทำให้ไม่สามารถบริการฉีดให้ที่ศูนย์ฉีดของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ต่อไปได้ตั้งแต่ 14 มิถุนายนนี้ ว่า โควต้าการจัดการวัคซีนโควิด ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ถูกนำไปรวมกับโควต้ามหาวิทยาลัยที่ขึ้นตรงกับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยที่มีรวม 11 สถาบัน โดยมีอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นประธานและมีปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้ส่งวัคซีนจำนวน 500,000 โดส ไปให้กับทางมหาวิทยาลัยแล้วอำนาจการจัดสรรจากนี้เป็นเรื่องของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการไม่เกี่ยวข้องกับกรมควบคุมโรค