ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัดสธ.เผยภาพรวมปูพรมฉีดวัคซีน 7 มิ.ย.จนถึงปัจจุบันยังไม่พบอาการรุนแรง ส่วนเสียชีวิตต้องสอบสวนหาสาเหตุก่อน เบื้องต้นอาการไม่พึงประสงค์วัคซีนแอสตราฯ เช่น ไข้ พบได้ 30 % พักและรับประทานยา 24-48 ชม.ก็หาย ส่วนที่เจออาการไข้ในคนหนุ่มสาวมากกว่านั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 10 มิ.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า หลังจากวัคซีนซิโนแวค มาถึงไทยประมาณ 05.30 น. จำนวน 1 ล้านโดส รวม 7.5 ล้านโดส จาก 10 ล็อต แต่ต้องผ่านการตรวจวิเคราะห์โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจใบรับรองการผลิตจากจีนเพิ่มเติม ทั้งนี้ เราฉีดวัคละ 4 แสนโดส ดังนั้น 1 ล้านโดสนี้จะใช้เวลาฉีดเพียง 3 วัน ดังนั้นต้องพยายามหาวัคซีนให้มากขึ้นทั้ง ซิโนแวค เดือนละ 3 ล้านโดส อาจจะต้องเจรจราเพื่อหามาให้มากกว่านี้ เช่น 5 ล้านโดส สำหรับกทม. ที่มีรายงานว่าจะพิจารณาเพิ่มปริมาณวัคซีนให้นั้น ขอชี้แจงว่า การจะเพิ่มการจัดสรรนั้น ต้องดูปริมาณวัคซีน และศักยภาพของการฉีดในพื้นที่ด้วย วันนี้เรามีวัคซีนจำกัด การกระจายก็มีสูตรอยู่ ซึ่งพยายามให้ตามแผนที่ศบค.ให้มา

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการใช้ในเด็กอายุ 3 ปี ขึ้นไป รอทางการจีนขึ้นทะเบียนก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา ว่าจะต้องใช้ปริมาณโดสเท่าไหร่ จำนวนครั้งที่ฉีด และระยะห่างระหว่างเข็ม และหากองค์การอนามัยโลกศึกษาเอกสารของจีน และให้การรับรองด้วย ก็เป็นเรื่องง่ายของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไทยในการพิจารณาอนุมัติให้ฉีดวัควีนซิโนแวคในกลุ่มอายุ 3 ปี ขึ้นไปได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเขารับรองแล้วเราจะรับรองตาม แต่เราก็มีการพิจารณาในส่วนของเราด้วย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากใกล้จะเปิดเทอม ดังนั้น ตอนนี้เราจึงกำลังฉีดในกลุ่มครู

สำหรับภาพรวมการปูพรมฉีดวัคซีนตั้งแต่ 7 มิ.ย. นั้น สิ่งสำคัญคือการฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ แต่การฉีดวัคซีนจำนวนมากต่อวันนั้น ย่อมมีข้อกังวลว่าจะมีผลข้างเคียงเกิดขึ้น ซึ่งก็มีรายงานมาเป็นลำดับ แต่ก็ต้องมีการพิสูจน์ว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากวัคซีนจริงหรือไม่ เช่น การเสียชีวิต ก็ต้องพิสูจน์ บางคนมีโรคประจำตัว มีโรคหัวใจ ดังนั้นอาจจะเป็นเหตุแห่งสุขภาพเดิมหรือไม่ ทั้งนี้ จากการฉีด 3-4 วันที่ผ่านมา ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม กลุ่มอาการที่เจอนั้นไม่ใช่กลุ่มอาการใหม่ แต่เป็นกลุ่มอาการเดิมที่เจออยู่แล้ว เช่น อาการไข้ พบได้ 30 % ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย แต่อาการที่เกิดขึ้นนั้น พักและรับประทานยา 24-48 ชั่วโมงก็หาย ส่วนที่เจออาการไข้ในคนหนุ่มสาวมากกว่านั้นก็เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังพบว่าอาจจะทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดได้

เมื่อถามว่าขณะนี้ในหลายพื้นที่ เกิดปรากฎการณ์ประชาชนที่ไปฉีดวัคซีนตามคิว ปฏิเสธที่จะฉีดวัคซีนของซิโนแวค ยืนยันว่าจะฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา เท่านั้น ปลัดกระทรวงสาธารรสุข กล่าวว่า วัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยตอนนี้เป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ คุณภาพ มีความสามารถในการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ป้องกันการป่วยรุนแรง และการเสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้นหากได้สิทธิในการฉีดวัคซีนแล้ว ก็ไม่อยากให้ประชาชนเลือกยี่ห้อ ขอให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาว่าจะให้ฉีดวัคซีนชนิดใด ส่วนเรื่องวีไอพีนั้นได้กำชับให้หน่วยบริการฉีดตามลำดับ ดำเนินการให้ถูกต้อง

เมื่อถามถึงกรณีมีนักวิชาการออกมาแนะนำให้ฉีดวัคซีนแอสตราฯ เข็ม 2 เร็วขึ้น นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า การฉีดวัคซีนแอสตราฯ เข็ม 1 มีสามารถสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นประมาณ 70-80% แล้วค่อยฉีดเข็ม 2 ต่อใน 16 สัปดาห์ โดยที่ภูมิคุ้มกันไม่ได้ลดลง แสดงว่ามีภูมิที่ป้องกันการป่วย อาการรุนแรง และเสียชีวิตได้

(อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : วัคซีนซิโนแวคถึงไทยแล้วอีก 1 ล้านโดส ส่วนแอสตราฯ ขอเลื่อนส่งออก จากกำหนดเดิม 14 มิ.ย.)

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org