ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

คณะกรรมการโรคติดต่อกทม.ออกประกาศผ่อนคลายสถานที่/กิจการบางประเภท เริ่ม 21 มิ.ย. 64 ทั้งสระว่ายน้ำสาธารณะ สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬา ศูนย์การเรียนรู้ ห้องสมุด ร้านสะดวกซื้อเปิดได้ตามเวลาปกติ  ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มได้ไม่เกิน 23.00 น. แต่ห้ามดื่มสุรา ฯลฯ

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2564  ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)  ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 18/2564 พิจารณาเห็นชอบมาตรการผ่อนคลายสถานที่/กิจการในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย64 เป็นต้นไป ดังนี้
1.สระว่ายน้ำสาธารณะ หรือกิจกรรมอื่น ๆ
2.สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬา หรือกิจกรรมทางน้ำในบึง โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด
3.ศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อุทยานวิทยาศาสตร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม และหอศิลป์
4.ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดชุมชน ห้องสมุดเอกชน และบ้านหนังสือ
5.ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. แต่ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน โดยจำกัดจำนวนผู้นั่งบริโภคในร้านที่เป็นห้องปรับอากาศไม่เกินจำนวนร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งปกติ
6.สนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายประเภทกลางแจ้งหรือที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้งหรือสนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายประเภทในร่มที่อากาศถ่ายเทได้ดี สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. และสามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้โดยไม่มีผู้ชมในสนาม
7.ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ
8.การจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค เช่น การประชุม การสัมมนา การแจกจ่ายอาหารหรือสิ่งของต่าง ๆ การจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ การเข้าค่าย การถ่ายทำภาพยนตร์หรือรายการโทรทัศน์  กิจกรรมทางศาสนา การปฏิบัติธรรม การพบปะญาติผู้ใหญ่ ให้ดำเนินการโดยจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่เกิน 50 คน กรณีเกิน 50คน แต่ไม่เกิน 500 คน ให้ขออนุญาตต่อสำนักงานเขตพื้นที่ก่อนจัดงาน กรณีเกิน 500คน ให้ขออนุญาตต่อสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ก่อนจัดงาน เว้นแต่เป็นการดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐหรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรค

ทั้งนี้ให้เจ้าของกิจการ สถานประกอบการทุกแห่งยังคงต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคอย่างเคร่งครัดต่อไป

 

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org