ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมามีผู้ใช้ Facebook รายหนึ่ง ได้โพสต์ให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 เนื้อหาให้ข้อมูลอาการของโควิด พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันหลายวิธี รวมไปถึงการให้รับประทานอาหารที่ส่วนประกอบของอัลคาไลน์ ทานอาหารที่อุ่นร้อนเท่านั้น และนั่งอาบแดดทุกวัน ในโพสต์ได้มีการอ้างว่าไวรัส Sars-CoV-2 เป็นสาเหตุของ Covid-19 ซึ่งมีระดับ pH ที่ไม่ซ้ำกัน "ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำเพื่อกำจัดไวรัสก็คือกินอาหารที่มีค่าเป็นด่างมากขึ้น" นี้ให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ 

Oyewale Tomori ศาสตราจารย์ด้านไวรัสวิทยาขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า “ไวรัสโคโรน่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระเพาะอาหาร ดังนั้น 'อาหารที่เป็นด่าง' เช่น เลมอน มะนาว อะโวคาโด และกระเทียม จะเอาชนะไวรัสได้อย่างไร?”

นอกจากนี้ ค่า pH ของ “อาหารที่มีส่วนประกอบอัลคาไลน์” ที่ระบุไว้นั้นไม่ถูกต้องอย่างมาก ดูเหมือนว่าต้นโพสต์จะคัดลอกข้อมูลโดยตรงจากมาจากเวอร์ชันเก่าที่ไม่ได้อัปเดตที่ทำให้เข้าใจผิดได้ ทั้งนี้ เลมอนถูกระบุว่ามีค่า pH 9.2 ซึ่งจะทำให้เป็นด่าง ในความเป็นจริง เลมอนมีสภาพเป็นกรด และแม้แต่ในการทดลองที่ง่ายที่สุดก็พบว่าเลมอนมีค่า pH ประมาณ 2-3 และโพสต์ดังกล่าวดูเหมือนจะได้รับการแปลเป็นภาษาอาฟรีกานส์อย่างไม่ นอกจากนี้ยังแนะนำว่าให้นั่งกลางแดดเป็นเวลา 15 ถึง 20 นาทีทุกวัน ซึ่งสิ่งนี้จะไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรเลยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 ดังที่ WHO ระบุไว้โรคนี้สามารถติดต่อได้ “ในทุกสภาพอากาศ รวมถึงพื้นที่ที่มีอากาศร้อนและชื้น”
โพสต์ยังแนะนำว่า "อาหารทุกอย่างต้องอยู่ในสภาพที่ร้อน (ไม่เย็น)" หรืออาหารต้องกินสดใหม่จากเตา ที่สหรัฐอเมริกาศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) มีบันทึกไว้ว่า “ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการประกอบอาหารหรือการบริโภคอาหารมีความเกี่ยวข้องกับโควิด-19” และการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ Reuters รอยเตอร์ยังพบว่าอาหารที่ยังอุ่นร้อน แสงแดด และอาหารที่เป็นด่างไม่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ ส่วนข้อแนะนำอื่น ๆ ที่ระบุในโพสต์ดังกล่าวมาตรการเหล่านี้ไม่สามารถป้องกันหรือรักษาโควิด-19 ได้

ส่วนที่อ้างถึง การแสดงอาการต่าง ๆ ของโควิด-19 มีหลายอาการที่ถูกต้อง ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ชัดเจนว่า อาการจะแบ่งเป็น 3 ระยะที่แตกต่างกันก็ตาม ทาง ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) กล่าวว่า อาการดังกล่าวอาจปรากฏขึ้นเมื่อใดก็ได้ภายใน 2 ถึง 14 วันหลังจากได้รับเชื้อไวรัส Sars-CoV-2 องค์การอนามัยโลกระบุอาการที่พบบ่อยที่สุดของโควิด-19 เป็นไข้ ไอแห้ง และเหนื่อยล้า แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะแสดงอาการเหล่านี้ทั้งหมด อาการอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อบางคนแต่ไม่ใช่ทุกคนได้แก่ “สูญเสียรสชาติหรือกลิ่น ปวดเมื่อย ปวดศีรษะ เจ็บคอ คัดจมูก ตาแดง ท้องร่วง หรือผื่นที่ผิวหนัง” และอาการปวดกล้ามเนื้อไม่ได้อยู่แค่บริเวณไตเท่านั้น ตามที่โพสต์ระบุ และ CDC กับ WHO ไม่ได้ระบุความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนในขณะขับปัสสาวะเป็นอาการของโควิด ฉะนั้นควรจะปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานด้านสุขภาพที่เชื่อถือได้เพื่อป้องกันและรักษาโควิดไม่ใช่ข้อความที่ไม่ระบุตัวตนที่โพสต์บนโซเชียลมีเดีย

 

แหล่งที่มา : Africa Check

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org