ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

มีโพสต์ในสื่อออนไลน์ อวดอ้างอ้างสรรพคุณของ สารสกัดจากรากดอกแดนดิไลออน ชื่อภาษาไทยมีชื่อเรียกว่า ดอกฟันสิงโต ซึ่งได้ระบุว่า “คุณรู้หรือไม่ รากของ แดนดิไลออน สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้ 98% ภายใน 48 ชั่วโมง ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นสารต้านการอักเสบ ภูมิคุ้มกัน สารต้านอนุมูลอิสระ และสารพิษที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย" ด้วยเหตุนี้ได้ถูกเรียกร้องให้มีการตั้งข้อสงสัย จากผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอิสระ เพราะการกล่าวอ้างเกี่ยวกับเซลล์มะเร็งดูเหมือนจะต้องใช้การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่แท้จริงของสารสกัดจากรากดอกแดนดิไลออน และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการอวดอ้างสรพพคุณดังกล่าว 

เดือนกันยายนปี 2559 Snopes ได้จัดอันดับหัวข้อ "ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเท็จ" ในบทความจากเว็บไซต์ Health Eternally ซึ่งอ้างอิงคำรับรองจาก John Di Carlo ชายวัย 72 ปีในแคนาดา ซึ่งบอกกับสถานีโทรทัศน์ CBC ของแคนาดาว่า เขาหายจากโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหลังจากดื่มชาดอกแดนดิไลออน บทความ Health Eternally กล่าวว่า ผลการศึกษาได้แสดงให้เห็นสารสกัดที่สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้ภายใน 48 ชั่วโมง แต่มันไม่ได้มีการอ้างอิงงานวิจัยที่เฉพาะเจาะจงเลย นอกจากนี้ Health Eternally ยังอ้างถึงการสัมภาษณ์ของสถานีโทรทัศน์ CBC ในปี 2012 กับ Dr. Caroline Hamm อายุรมะเร็งวิทยาทางการแพทย์ที่ Windsor Cancer Research Group ซึ่งเธอได้พูดถึงหลักประกันของสารสกัดจากรากดอกแดนดิไลออน

Hamm ได้ศึกษาผลของสารสกัดที่มีต่อเซลล์มะเร็งและตีพิมพ์รายงานผู้ป่วยรายหนึ่งซึ่งใช้รากดังกล่าวในชาที่ให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่เธอเตือนว่าชาใช้ไม่ได้ผลสำหรับทุกคน และการกินสารสกัดชนิดนี้มากเกินไปอาจขัดขวางการทำปฏิกิริยนทางเคมีบำบัดตามปกติ แม้ว่าจะมีการออกคำเตือนมาแล้ว แต่การอวดอ้างสรรพคุณของสารสกัดที่เป็นเท็จก็ยังมีการแพร่กระจายอยู่เรื่อย ๆ ในปี 2560 CBC รายงานว่า Hamm ยังคงได้รับอีเมลและโทรศัพท์จำนวนมากจากผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เชื่อว่าควรหยุดยาทั้งหมดและใช้เฉพาะสารสกัดจากรากดอกแดนดิไลอันเท่านั้น 

ในการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ตัวเลขในโพสต์ Instagram ที่ปรากฏนั้นสอดคล้องกับผลการวิจัยหนึ่งของเดือนพฤศจิกายน 2559 เป็นงานศึกษาของนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Windsor ใน Ontario งานวิจัยระบุว่า พวกเขาพบว่าสารสกัดจากรากดอกแดนดิไลออนช่วย "กระตุ้นโปรแกรมการตายของเซลล์ (PCD) โดยคัดสรรในเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ (มากกว่า) 95%... รักษาภายใน 48 ชั่วโมง" ซึ่งการศึกษานี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Oncotarget ในการให้สัมภาษณ์กับ USA Today Siyaram Pandey ศาสตราจารย์ด้านเคมีและชีวเคมีที่ร่วมเขียนการศึกษาดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าการค้นพบนี้มีพื้นฐานมาจากการศึกษาเซลล์ในจานเพาะเชื้อ ไม่ใช่มะเร็งในร่างกายมนุษย์ 

ผลการศึกษาของ University of Windsor ปี 2562 ที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ทางเลือกจาก Hindawi พบว่าทั้งรากดอกแดนดิไลออนและสารสกัดจากตะไคร้ เมื่อใช้ร่วมกับการรักษาด้วยเคมีบำบัด สามารถช่วยกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งในต่อมลูกหมากในหนูทดลองได้ อย่างไรก็ตาม Pandey ในฐานะผู้ทำการศึกษาและร่วมเขียนบทความ ขอเตือนว่า "ประสิทธิภาพของสารสกัดชนิดนี้ในมะเร็งต่อมลูกหมาก และการมีปฏิสัมพันธ์กับยาเคมีบำบัดมาตรฐานยังไม่ได้รับการศึกษาเพื่อพิจารณาว่ายาเหล่านี้เหมาะสมสำหรับนำมาใช้ในการสนับสนุนการรักษาได้หรือไม่ หมายความว่าต้องติดตามผลอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกัน การกลับเป็นซ้ำของมะเร็งหรือเนื้องอก” แม้ว่าจะมีการทดลองทางคลินิกของมนุษย์เกี่ยวกับสารสกัดจากรากแบบดอกแดนดิไลออนในการรักษามะเร็งที่ได้รับการอนุมัติแล้ว แต่ยังมีปัญหาเรื่องไม่สามารถรับผู้ป่วยได้เพียงพอ ถึงแม้ว่าโพสต์ดังกล่าวจะมีการอ้างถึงองค์ประกอบของความจริงอยู่ แต่ยังขาดบริบทที่สำคัญซึ่งอาจสร้างความเข้าใจผิดได้

 

 

แหล่งที่มา

Health Eternally, Scientists Find Root That Kills 98% Of Cancer Cells In Only 48 Hours

USA Today, Fact check: Limited study on cancer-fighting potential of dandelion root

PolitiFact The Poynter Institute

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org