ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นถึงวันละกว่า 5,000 ทำให้สูงกว่าเกณฑ์ที่หลายประเทศจะอนุญาติให้พลเมืองเดินทางมาได้ ซึ่งจะกระทบต่อมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยว โดยเกณฑ์ส่วนใหญ่เมื่อคิดเทียบกับจำนวนประชากรของไทยแล้วควรจะมีผู้ติดเชื้อไม่เกินวันละ 3,000-4,000 คน การที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นถึงวันละกว่า 5,000 รายทำให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่ซึ่งมีความเสี่ยงสูง จึงควรมีการชี้แจงให้ประเทศต่างๆ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายให้เดินทางเข้ามาท่อวเที่ยวในประเทสไทยได้เข้าใจว่าพื้นที่แซนด์บHอกนั้นถูกตีกรอบแล้ว จึงไม่ควรใช้หลักเกณฑ์เดียวกันทั้งประเทศ

“การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยควรจะต้องชี้แจงให้ประเทศต่างๆ เช่น กลุ่มประเทศยุโรป กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อิสราเอล เกาหลี และจีน ได้เข้าใจว่าในบ็อกกับในประเทศถูกตีกรอบแล้ว อัตราการติดเชื้อราใหม่ในบ็อกซ์ไม่ได้สูงมากเท่ากับค่าเฉลี่ยทั้งหมดของประเทศ” นายพัลลภกล่าว

ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่กล่าวว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ปัจจุบันฉีดไปแล้ว 190,000 คน ในจำนวนนี้ได้ฉีดครบ 2 โดสแล้วประมาณ 60,000-70,000 คน ซึ่งภาคท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่อยากได้มากกว่านี้ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นวัคซีนยี่ห้อไหน เพื่อให้อัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้นจนเพียงพอที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว

“ตอนนี้คนที่ตั้งใจมาเที่ยวเชียงใหม่คงน้อยมาก แต่การที่หนีจากเมืองที่ร้อนระอุ สถานการณ์ติดเชื้อที่แดงเข้มกว่า มันเกิดขึ้นแล้ว สังเกตุได้ว่ามีรถป้ายกทม.เยอะมากขึ้น เป็นการดูด้วยสายตา” ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่กล่าว

นายพัลลภกล่าวว่า ในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐบาลและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจระดับจังหวัด หรือกรอ.จังหวีดเชียงใหม่ จะมีการหารือประเด็นเหล่านี้ และนำเสนอแนวทางปฏิบัติเชียงใหม่แซนด์บ็อกซ์ ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในฐานะประธานกรอ.จังหวัด เพื่อเสนอต่อ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.ต่อไป

ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตเริ่มนำร่องโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคมที่ผ่านมา และจังหวัดเชียงใหม่จะเปิดโครงการเชียงใหม่แซนด์บ็อกในวันที่ 1 สิงหาคมนี้

 

หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก เฟซบุค อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์