ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อภ.แจงทุกขั้นตอนนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา ทำไมช้า เพราะงบประมาณไม่ได้มาจากภาครัฐ แต่มาจาก รพ.เอกชน ที่ต้องส่งให้ อภ. เป็นตัวแทนจัดซื้อตามข้อตกลงของบริษัทผู้ผลิต ซึ่งได้หารือกับเอกชน ขอให้รวบรวมตัวเลขและจัดงบให้ อภ.เดือน ก.ค. จากนั้นจะเซ็นสัญญาซื้อกับทางบริษัท ต้น ส.ค.64 ขณะที่โมเดอร์นาเผยส่งวัคซีนได้ไตรมาส 4 แต่ไม่ระบุเดือนชัดเจน ซึ่งเราเจรจาขอให้เร็วทุกสัปดาห์ วอนอย่าตะลุมบอน ขอให้เข้าใจขั้นตอนและความจริงที่เกิดขึ้น ส่วนไฟเซอร์ คร.เผยเข้าครม. 6 ก.ค.นี้

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรฒ(อภ.) กล่าวถึงประเด็นการดำเนินการนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา ว่า ก่อนการระบาดใหญ่ อภ.ได้มีการติดต่อไปโดยตรงกับบริษัท โมเดอร์นา ของสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2564 ว่าจะได้วัคซีนช่วงเดือนมิ.ย.2564 หรือไม่ ซึ่งเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2564 บริษัทตอบว่าไม่สามารถส่งได้ กระทั่งวันที่ 1 เม.ย. ทางอภ.สอบถามโมเดอร์นาว่า ได้ตั้งบริษัทใดเป็นตัวแทนเพื่อประสานหรือไม่ ซึ่งวันที่ 2 เม.ย. บริษัท แจ้งว่า เขาเจรจากับบริษัท ซิลลิคเท่านั้น ซึ่งวันที่ 15 เม.ย. ทางบริษัทซิลลิค ออกประกาศว่า การจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา ต้องจัดซื้อผ่านตัวแทนภาครัฐเท่านั้น ในที่นี่คือ อภ. เนื่องจากเป็นข้อกำหนดของบริษัทผู้ผลิตวัคซีน เพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่ง อภ.เป็นตัวแทนภาครัฐมาดำเนินการให้แทน

“ทำไมถึงช้า เพราะวัคซีนตัวนี้ไม่ได้จัดสรรงบประมาณจากภาครัฐ จริงๆ ก่อนหน้านี้เขาบอกจะมาปี 2565 ด้วยซ้ำไป แต่มีการเจรจาจึงจะมาถึงไตรมาส 4 ก็เร็วขึ้น แต่งบประมาณไปซื้อไม่ใช่ของภาครัฐ เป็นงบของเอกชน จึงต้องรอให้เอกชนรวบรวมยอด ซึ่งเราทำงานประสานกับรพ.เอกชนมาตลอด โดยรพ.เอกชน มีกว่า 300 รพ. ต้องการกว่า 9 ล้านเศษๆ แต่ทางบริษัทส่งให้ได้ประมาณ 4 ล้านโดสในปีนี้ และปีหน้าอีก 1 ล้านโดส รวมประมาณ 5 ล้านโดส และไม่ได้บอกด้วยว่า จะส่งได้วันไหน บอกแค่ว่าประมาณไตรมาส 4 ดังนั้น ที่อภ.ไม่เซ็นสัญญา เพราะต้องรอรพ.เอกชน เอางบประมาณมาก่อน เพราะถ้าผมไปเซ็น แล้วไม่มีงบฯมา เราจะรับไม่ไหว จึงได้กำหนดร่วมกันกับทางรพ.เอกชนว่า ให้รวบรวมตัวเลขและงบฯมาให้ทาง อภ. ในเดือน ก.ค. นี้ และอภ.จะดำเนินการตามขั้นตอนเซ็นสัญญากับบริษัทภายในสัปดาห์แรกของเดือน ส.ค.” ผอ.องค์การเภสัชกรรม กล่าว

นพ.วิฑูรย์ กล่าวอีกว่า เอกสารร่างไว้หมดแล้วและได้รับเอกสารจากบริษัท ซิลลิค เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 ก.ค. และอภ.ได้ส่งอัยการสูงสุดช่วงบ่ายวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม หากสัญญาเรียบร้อย ทางสหรัฐยืนยันว่า จะส่งให้ไทยได้ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แต่จะเป็นตุลาคม หรือธันวาคม หรือจะไปม.ค.2565 ก็ได้ เพราะทางสหรัฐตอบแบบกว้างๆ อย่างไรก็ตาม ทางอภ.มีการติดตามวัคซีนชนิดอื่นๆ ด้วย อย่างซับยูนิตก็มี หรือวัคซีนเชื้อตายที่ทางอภ.มีการศึกษาวิจัยร่วมกับมหิดลด้วยเช่นกัน และผ่านการทดสอบเฟสหนึ่งแล้ว และจะทดสอบในเฟสสองช่วงเดือน ส.ค. นี้

“ทุกวันนี้ อภ.คุยกันตลอด ขอร้องทางบริษัทในการนำเข้าไทยเร็วที่สุด แม้กระทั่งวัคซีนชนิดอื่นๆ เราก็ประสานตลอด เราคุยตลอด อย่างเคยมีข่าวว่า วัคซีนที่ไม่ลงนามสัญญา หากบริษัทเอาคืน ไทยขอได้หรือไม่ ซึ่งบริษัทก็ตอบเช่นเดิม ขอเรียนว่า ตอนนี้ข้าศึกไม่ได้มาบ้านเรา แต่เราตะลุมบอนกันเอง ตอนนี้เราทำดีที่สุด มีข่าวดีเราจะรีบบอกทันที ขอความเห็นใจ เราก็พยายามจริงๆ ขอให้พูดความจริงกัน” ผู้อำนวยการอภ. กล่าว

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า นอกจากวัคซีนซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้า ยังมีการเจรจาสั่งซื้อวัคซีนตัวอื่นๆ อย่างไฟเซอร์ จำนวน 20 ล้านโดส เราได้มีการเจรจาก่อนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) รับรอง โดยสำนักงานอัยการสูงสุดได้ตรวจสัญญาและจะเสร็จในวันจันทร์ที่ 5 ก.ค. จะถึงนี้ จากนั้นก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ 6 ก.ค. หากผ่านขั้นตอนเหล่านี้ก็จะได้สั่งซื้อได้ ที่ต้องทำต่อไปคือ ขอเจรจาให้ส่งมอบเร็วขึ้น

 

**************************

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org