ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

ปลัดสธ.แจงแนวทางใช้ Antigen Test Kit ตรวจหาโควิด เริ่มพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) ในสถานพยาบาล ทั้งนี้สามารถร้องขอชุดตรวจผ่านคลินิกใกล้บ้าน คลินิกชุมชนอบอุ่น พร้อมจัดทีมบุคลากร 188 ทีมลงพื้นที่ดูแลผู้ป่วยแยกตัวที่บ้านและชุมชน ส่วนสปสช. เตรียมกำหนดจุดขอชุดตรวจ ขณะที่ในอนาคตกำหนดขายในร้านยาที่มีเภสัชกร กรณีการควบคุมราคาเป็นส่วนของกระทรวงพาณิชย์

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่12 ก.ค.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวประเด็นแนวทางการใช้ Antigen Test Kit ในการตรวจโควิดที่บ้าน และแนวทางการรับผู้ป่วยกรณีการแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) และการแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) ผ่านระบบออนไลน์เฟซบุ๊กไลฟ์กระทรวงสาธารณสุข

นพ.เกียรติภูมิ แถลงว่า กรณีการมารอตรวจเชื้อโควิดจำนวนมากนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุข พยายามวางระบบแก้ปัญหา โดยกรณีการตรวจเชื้อโควิด ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กรมควบคุมโรค มีการพิจารณาการตรวจหาเชื้อ โดยปัจจุบันมีชุดตรวจที่เรียกว่า Antigen Test Kit หรือ ATK จะนำมาใช้ในวงกว้างมากขึ้น แต่เนื่องจากชุดตรวจนี้ยังมีปัญหาอยู่ คือ 1.ชุดตรวจนี้ให้ผลประมาณ 90% ทางวิทยาศาสตร์ยอมรับได้ แต่ทางการแพทย์ยังคิดว่าอาจมีช่อง จึงต้องปิดช่องโหว่ และ 2. เมื่อตรวจพบผลบวก หรือลบ จะทำอย่างไร ทางสธ.จึงร่วมกับกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่าย ภาคประชาสังคมต่างๆ จัดระบบมาดูแล โดยเดิมเราตรวจหาเชื้อผ่าน RT-PCR เมื่อพบเชื้อให้รักษาในรพ. ปรากฎว่าขณะนี้มีปัญหาเรื่องเตียง จึงเปลี่ยนแนวคิดว่า หากป่วยไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย ให้ดูแลรักษาที่บ้านที่เรียกว่า Home Isolation (HI) และการแยกกักตัวในชุมชน กรณีชุมชนมีความเข็มแข็งก็จะจัดสถานที่ดูแลเรียกว่า Community Isolation (CI)

“โดยทั้งสองแบบจะมีระบบสาธารณสุขไปติดตามดูแล เมื่อเข้าสู่ระบบนี้ จะติดตามวันละ 2 ครั้ง มีเครื่องมือวัดไข้ วัดออกซิเจน ให้ยา ทำให้การดูแลที่บ้าน มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่หลุดออกจากระบบสาธารณสุข พร้อมๆกับมีชุดตรวจ ATK ซึ่งระยะแรกจะใช้ในสถานพยาบาลก่อน ได้แก่ รพ. หรือคลินิก หรือคลินิกชุมชนอบอุ่น หรือคลินิกต่างๆที่ใกล้เคียง สามารถไปขอใช้บริการ ซึ่งเมื่อผลออกมาบวกหรือลบ ทางคลินิกจะช่วยเหลือต่อไป และจะสอนวิธีการตรวจ อีกทั้ง ในอนาคตจะทดสอบด้วยตัวเอง น่าจะเป็นสัปดาห์หน้า วางจำหน่ายในร้านขายยา หากผลบวกลบอย่างไรให้ติดต่อคลินิกใกล้บ้าน เพื่อรองรับตัวท่านต่อไป” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

(ข่าวเกี่ยวข้อง : “นิมิตร์” จี้รัฐชุด “แรพิด แอนติเจน เทส” ตรวจโควิดด้วยตัวเองต้องฟรี!)

ปลัดสธ. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ระหว่างล็อกดาวน์ 2 สัปดาห์ ยังมีระบบบริการแบบปฐมภูมิในการดูแลคนที่อยู่ใน HI หรือ CI โดยสธ.จะร่วมกับกทม. ภาคีเครือข่าย และคลินิกชุมชนอบอุ่น จัดทีม 188 ทีมไปดูแลในชุมชน โดยจะมีองค์ประกอบประมาณ 8 คน คือ บุคลากรสาขาต่างๆ ทำหน้าที่ 1.ไปให้ความรู้แก่ประชาชนในการดูแลตัวเอง ทั้งมีเชื้อ และไม่มีเชื้อระหว่างดูแลตัวเองที่บ้าน 2. หากมีการเจ็บป่วยก็จะไปดูแลรักษา ทั้งทางกายและใจ จะมียาเข้าไป ทั้งฟ้าทะลายโจร และยาต้านไวรัส แล้วแต่กรณีที่ได้รับ 3. หากพบคนสูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ทีมนี้จะเข้าไปฉีดวัคซีน เพื่อเข้าถึงประชาชนได้เลย และ 4.การเชื่อมต่อระบบบริการ หากบุคคลเหล่านี้ไปถึงและพบว่าประชาชนมีการเจ็บป่วยจะรีบให้การดูแล หรือจะมีระบบเทเลเมดิซีนให้คำปรึกษาได้อย่างทันท่วงที และหากมีอาการมากขึ้นทีมนี้จะจัดการนำส่งเข้าสู่รพ. โดยกรุงเทพฯ มีประมาณเกือบ 200 พื้นที่ โดยจะไปดูแลในช่วง 2 สัปดาห์จากนี้

“สำหรับชุดตรวจ ATK ในทุกสถานพยาบาลจะมีชุดตรวจดังกล่าว โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.2564 เป็นต้นไป แต่ขอย้ำว่า หากพบผลลบ ขอให้ตรวจซ้ำ 3-5 วัน แต่หากผลบวกให้ติดต่อหน่วยบริการใกล้บ้าน เช่น คลินิกชุมชนอบอุ่น หรือรพ.ใกล้บ้าน โดยจะมีระบบส่งต่อ หรืออาจแนะนำให้ดูแลตัวเองที่บ้าน โดยจะมีทีมบุคลากรดูแลตามที่ได้กล่าวไป ” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงชุด Antigen Test Kit ว่า ปัจจุบันขอเรียกว่า ชุด Antigen Test Kit แต่ไม่ขอเรียกว่า Rapid Antigen Test เพราะจะเกิดความสับสน คำว่า แรพิด ที่แปลว่าเร็ว อาจเข้าใจว่าตรวจจับไวรัสเร็ว ซึ่งไม่ใช่ แต่เป็นการรู้ผลเร็ว จึงขอเปลี่ยนเป็นใช้คำว่า Antigen Test Kit โดยปัจจุบันมี 24 ยี่ห้อ และขึ้นทะเบียน เป็นแบบ Professional Use ต้องใช้ในบุคลากรทางการแพทย์ ไม่สามารถตรวจเองได้ แต่ในอนาคตทาง อย.เสนอให้ปลดล็อกตรงนี้ ว่า หากมีการวางจำหน่ายในร้านยา ประชาชนก็อาจซื้อไปตรวจได้

นพ.ศุภกิจ กล่าวอีกว่า การตรวจเชื้อนั้นทำเหมือนการตรวจแบบ RT-PCR คือแยงจมูก ไปจนคอหอย หรือทางช่องปาก ตรวจทางน้ำลาย ขึ้นอยู่กับชุดตรวจว่า ให้เก็บสิ่งส่งตรวจอย่างไร โดยการตรวจชนิดนี้เป็นการคัดกรองเบื้องต้น ซึ่งความจำเพาะ และความไว สู้แบบ RT-PCR ที่เป็นวิธีมาตรฐานไม่ได้ แต่การรอคิวนาน ชุดตรวจนี้ก็จะช่วยได้เบื้องต้น แต่ถ้าคนที่มีอาการมากๆ ขอให้ตรวจ RT-PCR แต่หากสถานพยาบาลไหนมีคนรอตรวจมากๆ เบื้องต้นตรวจด้วย Antigen Test Kit ก่อน และหากผลบวกก็ต้องคอนเฟิร์ม RT-PCRอีกที ส่วนคนที่สงสัยและไม่มีอาการใดๆ เบื้องต้นท่านอาจไปพบคลินิก หรือสถานพยาบาลใกล้บ้านกำหนด เพื่อร้องขอการตรวจด้วยชุด Antigen Test Kit ก่อนได้ โดยหากพบว่า เป็นผลลบ ซึ่งชุดตรวจนี้หากเชื้อไม่มากพออาจตรวจไม่เจอ ดังนั้น ต้องตรวจซ้ำ หากไม่มีอาการให้รอ 3-5 วันค่อยตรวจซ้ำ แต่หากมีอาการก็ตรวจได้เลย

“การใช้ชุดตรวจ หากอนาคตวางขาย หรือร้องขอสถานพยาบาล ก็ต้องเป็นชุดตรวจที่เก็บได้ด้วยตัวเองโดยง่าย ทั้งโพรงจมูก หรือน้ำลาย โดยขณะนี้มีชุดตรวจจำนวนหนึ่งกำลังปรับ และแจ้งขออย. เพื่อให้มีทางเลือกต่อไป ส่วนการตรวจเทคนิคอื่นๆ เช่น ตรวจด้วยน้ำลาย ตรวจแบบรวมตัวอย่าง ก็เป็นอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตาม แต่ในอนาคตหากชุดตรวจ Antigen Test Kit ที่วางขายให้ไปตรวจเองนั้น คนเอาไปใช้ต้องศึกษาเอกสารกำกับให้ชัด เพราะทุกวันนี้ให้บุคลากรการแพทย์ใช้ การเขียนอาจซับซ้อน แต่ต่อไปผู้ผลิตต้องปรับเพื่อให้เข้าใจง่าย และการเก็บชุดตรวจต้องดี ต้องตรวจสอบวันหมดอายุ และต้องระวังในการตรวจ ไม่ให้ปะปนกับคนอื่น ป้องกันการแพร่เชื้อ และเมื่อตรวจแล้ว อุปกรณ์ต่างๆ ต้องเก็บให้ดี และต้องใส่น้ำยาฆ่าเชื้อ เป็นต้น” นพ.ศุภกิจ กล่าว

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ที่สำคัญเมื่อผลตรวจออกมานั้น หากทดสอบให้ผลบวก ต้องรีบแจ้งหน่วยบริการใกล้บ้าน และแยกกักตัวเอง รอการเข้าสู่ระบบ แต่หากผลสอบเป็นลบ แต่คิดว่ามีความเสี่ยงสูง แต่อาการไม่ดี ก็ต้องตรวจซ้ำประมาณ 3-5 วัน หากเป็นลบอีกโอกาสเป็นก็น้อยลง อย่างไรก็ตาม ระหว่างรอหากมีอาการขึ้นมา ให้รีบตรวจซ้ำทันที หรือไปพบคลินิก

“ขณะนี้สปสช. กำลังดำเนินการและจะกำหนดว่า สถานพยาบาลแห่งใดบ้าง ที่ประชาชนสามารถร้องขอชุดตรวจ ATK ที่ไหนบ้าง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่อนาคตจะเปิดช่องให้สามารถซื้อขายได้ต่อไป ซึ่งเมื่อมีมากราคาก็จะถูกลง” นพ.ศุภกิจ กล่าว

00 ชุดตรวจ ATK มีทั้งแจก และเปิดทางให้สามารถซื้อได้ ่สวนคุมราคาเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์

เมื่อถามว่า กรณีชุด ATK จะแจกฟรี หรือจำหน่ายผ่านช่องทางไหน นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า หากอนาคตให้ซื้อเองได้นั้น ต้องขายผ่านร้านขายยามีเภสัชกร แต่จะไม่มีการให้ขายในอินเทอร์เน็ต เพราะสินค้านี้จะขึ้นทะเบียนกับอย.

ด้าน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย. กล่าวว่า ปัจจุบันชุดตรวจ ATK ยังใช้โดยบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งกำลังเปลี่ยนเพิ่มเป็นชุดตรวจด้วยตนเอง หรือ Home use ซึ่งเป็นเครื่องมือแพทย์ การตรวจด้วยตัวเองต้องรอการอนุญาตก่อน และช่องทางการจำหน่ายจะจำกัดช่องทางจำหน่าย ซึ่งเพิ่มมาเป็นร้านขายยา ที่มีเภสัชกร หากขายผ่านอินเทอร์เน็ตไม่ได้ เพราะจำกัดเฉพาะสถานพยาบาล คลินิกเวชกรรม คลินิกเทคนิกการแพทย์ และร้านขายยา อย่างไรก็ตาม วันนี้ท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการสธ. ได้ลงนามในประกาศกระทรวงฯแล้ว เหลือรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา เบื้องต้นมี 24 บริษัทที่ใช้แบบบุคลากรทางการแพทย์ใช้ก็ยังอยู่ และจะมีอีกประมาณ 7 บริษัทซึ่งก็จะมีการปรับรูปแบบการใช้ มีเอกสารการใช้ คาดว่าสัปดาห์น่าจะใช้ได้ต่อไป

เมื่อถามถึงการควบคุมราคามีมาตรการอย่างไร นพ.ไพศาล กล่าวว่า เมื่อเป็นเครื่องมือแพทย์ ซึ่งเรื่องนี้เป็นกลไกทางการตลาด แต่เมื่อใช้ด้วยตัวเอง หากตัวซัพพลายด์เพิ่มขึ้น แม้ดีมานด์เพิ่มขึ้น แต่ราคาก็ต้องสมเหตุสมผล แต่หากราคาไม่แน่นอน ก็ต้องเสนอไปยังการควบคุมราคาสินค้า ซึ่งมีกระทรวงพาณิชย์ดูแลต่อไป

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า จริงๆ เรามีของฟรี ไม่ต้องซื้อเอง โดยในสถานพยาบาล คลินิก ให้กับประชาชนไปใช้บริการเองได้ ซึ่งเมื่อมีของฟรี ก็มองว่า ผู้ขายก็น่าจะทำให้ราคาไม่สูงเกินไป