ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นายกสมาคมเวชศาสตร์ฯ ชี้กทม. เร่งฉีดวัคซีนโควิด “คนสูงอายุ-ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง” เร็วๆนี้จ่อเซ็ตระบบ “ไทยร่วมใจ” เริ่มใหม่ 2 กลุ่มดังกล่าว พร้อมขอผู้สูงวัย สอบถาม รพ.ที่รักษาหากมีวัคซีนแจ้งขอฉีดทันที!! ติงบางสื่อ ตัดทอนคำองค์การอนามัยโลก สร้างความเข้าใจผิด เตือนปชช.อย่าหลงเชื่อข้อมูลวัคซีนจากโซเชียลฯ มีกลุ่มแฝงผลประโยชน์ ส่วนตัวแพทย์เองขอร้องให้ทำตามพระราชปณิธานสมเด็จพระราชบิดา ที่ให้ไว้ขอให้ทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์

 

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 15 ก.ค.2564 ศ.(วุฒิคุณ) นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ นายกสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย กล่าวในการเสวนาวิชาการวัคซีนโควิด19 สำหรับสื่อมวลชน ว่า สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ มีปัญหาการฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้สูงอายุและ 7 โรคเรื้อรังอยู่ เนื่องจากตั้งใจว่า เดือน มิ.ย.-ก.ค. ให้มีการลงทะเบียนฉีดวัคซีนให้ 2 กลุ่มดังกล่าว แต่มีการระบาดรุนแรงในกรุงเทพฯ ประกอบกับผู้สูงอายุบางส่วนกลัวผลการฉีดวัคซีน ทำให้ไม่กล้ามาฉีด โดยกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ฉีดแอสตร้าฯ ปัจจุบันฉีดไปแล้ว 30% และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรังได้ 40% และ 2-3 สัปดาห์ เราจะระดมฉีด 2 กลุ่มนี้ให้ได้ 70% ดีที่สุดต้อง 100%

“ ดังนั้น ขอให้ผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ไปที่รพ.ที่รักษาอยู่ และแจ้งความประสงค์ว่าอยากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ถ้าเขามีวัคซีน เขาจะฉีดให้เลย แต่หากไม่มี เขาจะจดลิสต์ และลงทะเบียนให้ ส่วนกลุ่มที่ยังลังเล ในอีกประมาณ 2-3 วันข้างหน้า จะมีการลงทะเบียน “ไทยร่วมใจ”  โดยเริ่มใหม่ แต่เน้นผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ให้รอประมาณไม่กี่วัน น่าจะมีข้อมูลออกมา หรือสามารถเดินไปร้านสะดวกซื้อสอบถามได้ สิ่งสำคัญขอให้ไปถามรพ. ต้องได้ฉีดไม่เกิน 3 วัน 7 วัน” ศ.(วุฒิคุณ) นพ.พรเทพ กล่าว 

ศ.(วุฒิคุณ) นพ.พรเทพ กล่าวอีกว่า จากมติคณะกรรมการโรคติดต่อได้พิจารณาว่า จะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ เมื่อวัคซีนมีแค่นี้ เราก็ต้องใช้ประโยชน์ให้ดีที่สุด โดยต้องใช้ซิโนแวคบวกกับแอสตร้าฯ เพื่อควบคุมเดลตาให้ได้ ด้วยการฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันในการป้องกัน คือ การฉีดซิโนแวค 1 เข็ม รออีก 3-4 สัปดาห์ฉีดตามด้วยแอสตร้าฯ เป็นเข็มที่ 2 ส่วนใครเคยฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ให้รอสักประมาณ 1 เดือน แล้วค่อยไปกระตุ้นเข็ม 3 แต่ผู้รอกระตุ้นเข็ม 3 ขอให้ใจเย็นๆ เราจะให้กับเจ้าหน้าที่ บุคลากรด่านหน้าที่อยู่กับคนไข้ เพื่อให้พวกเขาฉีดก่อนป้องกันไม่ให้เขาป่วยรุนแรง จนเสียชีวิต หากเจ้าหน้าที่ป่วย จะไม่มีคนมาดูแล เจ้าหน้าที่ทั้งหมดมี 7 แสนคน เราเลือกกลุ่มด่านหน้าก็ไม่ทั้งหมด ดังนั้น กลุ่มอื่นๆ ขอให้รอก่อน

“วันนี้มีข้อโต้แย้งของสื่อมวลชนที่จับประเด็นมาโจมตีการทำงาน ซึ่งผมไม่ชอบเลย ผมว่าผู้ที่กำลังบิดเบือนข้อมูลเหล่านี้บาปกรรมมาก เพราะกำลังทำให้สังคมสับสนและไม่ยอมทำตามเรื่องที่ราชการจะควบคุมโรค การที่ราชการจะควบคุมโรคให้ได้ มีอะไรจะต้องใช้ทุกอย่าง เรากำลังจะทำสิ่งดีๆ ก็ไปตัดถ้อยคำบางตอนขององค์การอนามัยโลก จนคนเข้าใจผิด พูดอยู่ 2 เรื่อง ก็ไปเอามาเรื่องเดียวทำให้เกิดความสับสน ซึ่งดร.ซอมยา จาก WHO บอกว่ากรุณาอย่าไปใช้วัคซีนสลับกันโดยการตัดสินใจของบุคคล แต่วัคซีนสลับชนิดทำได้ หากมีผลงานวิจัยมารองรับ และเป็นหน่วยงานด้านสาธารณสุขของประเทศ แต่คำว่าสาธารณสุขของประเทศทำได้นั้นกลับถูกตัดทิ้ง ผมถามว่าทำทำไมบาปกรรม ตกนรกนะ คนตายไปเยอะมาก ท่านอย่าทำเพราะบาปมาก ผมไม่ได้แช่งท่าน แต่มันบาปมากจริงๆ ซึ่งผมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการวิชาการของพ.ร.บ.โรคติตต่อฯ ได้มีการพิจารณาเรื่องนี้ และขอให้สื่อนำเสนอข้อมูลที่เป็นจริงทั้งหมด” ศ.(วุฒิคุณ) ดร.นพ.พรเทพ กล่าว

ศ.(วุฒิคุณ) นพ.พรเทพ กล่าวว่า การให้ฉีดวัคซีนอะไร ประชาชนมีสิทธิ์เลือก หากไม่อยากฉีดสลับก็เลือกเองได้ ทั้งนี้การฉีดวัคซีนอะไรก็ตาม ขอให้ฟังจากกรมควบคุมโรค อย่าไปเชื่อที่ส่งต่อกันในโซเชียลมีเดีย ที่แฝงไปด้วยความไม่รู้จริง แฝงด้วยผลประโยชน์ด้านธุรกิจ และการเมือง แม้เป็นแพทย์ในโซเชียลมีเดีย ก็ให้ดูด้วยว่าแพทย์ท่านนั้นเชี่ยวชาญด้านไหน เพราะแพทย์มีหลายประเภท ให้เลือกที่เค้าเชี่ยวชาญเรื่องนี้จริงๆ ส่วนตัวแพทย์เอง ขอร้อง ให้ทำตามพระราชปณิธานสมเด็จพระราชบิดา ที่ให้ไว้ ก็ขอให้ทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์ ลาภยศสรรเสริญจะตกแก่ท่านเอง เราถูกสอนมาแบบนั้น

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org