ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดแคมเปญใน www.change.org ชวนประชาชนลงชื่อเรียกร้องให้รัฐบาลใช้อำนาจตาม พ.ร.บ​.​ความมั่นคงด้านวัคซีนฯ นำวัคซีนที่ผลิตโดย Siam Bioscience มาใช้ในประเทศมากกว่าส่งออก ชี้อีก 2-3 เดือนข้างหน้าคือช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานของการควบคุมการระบาด ไทยกำลังจะประสบปัญหาการขาดแคลนวัคซีนอย่างหนัก

ศ.ดร.นพ.ประเสริฐ เอื้อวรากุล รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล สร้างแคมเปญใน www.change.org (http://chng.it/X94dVxZj) เชิญชวนประชาชนลงชื่อเรียกร้องให้รัฐบาลใช้ พ.ร.บ​.​ความมั่นคงด้านวัคซีนฯลดการส่งออกวัคซีนของ Siam Bioscience โดยระบุว่า อยากขอให้ช่วยกันรณรงค์เรียกร้องให้รัฐบาลใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2561 ลดการส่งออกวัคซีนที่ผลิตจาก Siam Bioscience เนื่องจากในเวลานี้การเข้ามาของวัคซีนบริจาคและข่าวการจัดหาวัคซีนเพิ่มอาจทำให้หลายคนเข้าใจว่าสถานการณ์วัคซีนของประเทศกำลังดีขึ้น แต่ที่จริงแล้วแม้ในระยะยาวสถานการณ์เรื่อง supply ของวัคซีนของประเทศอาจจะดีขึ้นจริง แต่ตนทราบจากการพูดคุยกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่า ในระยะ 2-3 เดือนข้างหน้าที่เป็นระยะหน้าสิ่วหน้าขวานของการควบคุมการระบาด ประเทศไทยกำลังจะประสบปัญหาการขาดแคลนวัคซีนอย่างหนัก

ดังนั้น วิธีที่ตรงไปตรงมามากที่สุดที่ประเทศควรทำในขณะนี้คือการลดหรืองดการส่งออกวัคซีนที่ผลิตที่ Siam Bioscience เป็นการชั่วคราว ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีอำนาจตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนฯ ในการดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้ว ขณะนี้ Siam Bioscience มีกำลังการผลิตประมาณเดือนละ 10 ล้านโดส หากใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ทำให้ประเทศมีวัคซีน 20-30 ล้านโดสในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ประเทศไทยจะมีโอกาสควบคุมการระบาดและลดความสูญเสียได้ดีขึ้นมาก

ศ.ดร.นพ.ประเสริฐ ระบุด้วยว่า การดำเนินการเช่นนี้จะมีผลกระทบต่อประเทศอื่นในภูมิภาคที่จะได้รับวัคซีนจาก AstraZenaca ลดลงบ้าง แต่ประเทศเหล่านี้ไม่ได้พึ่งพาวัคซีนนี้เป็นหลักอย่างประเทศไทย การลดลงของวัคซีนชนิดเดียวในวัคซีนหลายๆชนิดมีผลกระทบน้อยกว่าประเทศไทยที่เมื่อวัคซีนหลักไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ก็มีวัคซีนอื่นที่จะมาช่วยได้น้อยมาก เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วตนคิดว่าแม้จะมองในระดับภูมิภาคเรื่องนี้ก็ยังจำเป็นต้องทำอยู่ดี

ด้าน นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า ชมรมแพทย์ชนบทสนับสนุนและเชิญชวนทุกท่านร่วมลงชื่อในแคมเปญดังกล่าวเพื่อให้วัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยได้ใช้ในประเทศมากกว่าส่งออก โดยนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.ที่คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบในหลักการจะใช้อำนาจออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ตาม มาตรา 18 ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงวัคซีนแห่งชาติ 2561 เพื่อกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยไปนอกราชอาณาจักรชั่วคราว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ดำเนินการใดๆ

"หากวัคซีนมีน้อย คนอาจตายนับหมื่น" ประธานชมรมแพทย์ชนบทย้ำ