ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผอ.ศูนย์วิจัยคลินิก ศิริราช เผยผลความคืบหน้างานวิจัยวัคซีนสลับชนิด พบ ฉีดซิโนแวคก่อนตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้าใน 3-4 สัปดาห์ ภูมิขึ้นสูงเฉลี่ย 1,355 หน่วย ใกล้เคียงกับการฉีดไฟเซอร์ 2 เข็มที่มีภูมิขึ้นเฉลี่ย 1,900 หน่วย แต่ไม่แนะนำให้แอสตร้าฯ เป็นเข็มหนึ่งและตามด้วยซิโนแวคเป็นเข็มสอง เพราะสร้างภูมิคุ้มกันได้ต่ำกว่า พร้อมเผยงานวิจัยกระตุ้นเข็ม 3 กรณีแอสตร้าฯ และซิโนฟาร์ม ส่วนไฟเซอร์ รอผลอีก 2 สัปดาห์

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2564 ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก (SICRES) กล่าวว่า งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิดในช่วงแรกเป็นการศึกษาในอาสาสมัครบุคลากรทางการแพทย์ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม และวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม ใช้การทดสอบด้วยวิธีเดียวกัน ในผู้ที่มีคุณสมบัติคล้ายกัน พบว่าหลังฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม มีภูมิคุ้มกันขึ้นสูงสู้การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็มไม่ได้ และเมื่อทดสอบการต่อต้านไวรัสเดลตาที่มีชีวิต พบว่าซิโคแวคสองเข็มจะปกป้องได้ไม่ดีเท่าแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งสอดคล้องกับรายงานที่พบการติดเชื้อเดลตาจำนวนมากในผู้ที่เคยฉีดซิโนแวค 2 เข็มมาก่อน อย่างไรก็ดี ก็ยังพบว่าวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มยังป้องกันการติดเชื้ออย่างรุนแรง และการเสียชีวิตได้ค่อนข้างสูงมากกว่า 70%

ศ.พญ.กุลกัญญา กล่าวอีกว่า การเกิดเชื้อกลายพันธุ์ทำให้การฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มแบบเดิม ป้องกันเชื้อเดลตาไม่ได้ดี แม้ว่าการฉีดวัคซีนจะยังสามารถลดความรุนแรงได้ จึงได้มีการศึกษาการฉีดสลับเข็มไขว้ ระหว่างซิโนแวค+แอสตร้าเซนเนก้า แอสตร้าเซนเนก้า+ซิโนแวค และซิโนแวค+ไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้า+ไฟเซอร์ ผลการศึกษา โดยทำการวัดภูมิต่อไวรัสโดยวิธีที่ใช้ทั่วไป anti-RBD IgG (BAU/mL) หลังเข็มสอง 2 สัปดาห์ พบว่าการฉีดสลับเข็ม ซิโนแวคก่อนตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า พบภูมิจาก 24 หน่วย ขึ้นสูงเป็น 1,355 หน่วย แต่ถ้าฉีดแอสตร้าเซนเนก้าก่อน แล้วตามด้วยซิโนแวค พบว่าภูมิขึ้นน้อยกว่ามาก จาก 147 หน่วยขึ้นเป็น 222 หน่วย เมื่อเปรียบเทียบกับการฉีดชนิดเดียวกัน ซิโนแวค 2 เข็มภูมิขึ้น 229 หน่วย ฉีดแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็มภูมิขึ้น 424 หน่วย ไฟเซอร์ 2 เข็มภูมิขึ้น 1,900 หน่วย

“ส่วนคนที่เป็นโควิด19 ในช่วงระบาดที่สมุทรสาครเมื่อผ่านไป 4 สัปดาห์ภูมิขึ้น 181หน่วย และจากวัดภูมิแบบจำเพาะต่อสายพันธุ์เดลต้าที่มีชีวิต พบว่า ถ้าฉีดเข็มสลับซิโนแวคแล้วตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า สามารถต่อต้านเดลตาได้ดีกว่าการฉีดแอสตร้าเซนเนก้าแล้วตามด้วยชิโนแวค หรือซิโนแวค 2 เข็มมาก และดีกว่าการฉีดด้วยแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็มเล็กน้อย ส่วนผลการศึกษาเข็มสลับไฟเซอร์กับวัคซีนตัวอื่น ต้องรออีก 1 เดือนจึงจะทราบผล เนื่องจากเพิ่งได้รับวัคซีนมาศึกษา” ศ.พญ.กุลกัญญา กล่าว

ศ.พญ.กุลกัญญา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตา ทำให้มีความจำเป็นที่ต้องฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กับบุคลากรด่านหน้าที่เคยฉีดวัคซีนซิโนแวคมาแล้ว 2 เข็ม เพราะถ้าติดเชื้อแม้จะไม่รุนแรงก็ต้องหยุดงาน ไม่มีคนดูแลผู้ป่วย ศูนย์วิจัยคลินิกศิริราช จึงได้เริ่มทำการศึกษาเพิ่มเติม โดยแบ่งการฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 ออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ แอสตร้าเซเนก้า ซิโนฟาร์ม ไฟเซอร์เต็มโดสและไฟเซอร์ครึ่งโดส (ซึ่งมีศึกษาการใช้ครึ่งโดสของวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอฉีดกระตุ้นมาบ้างแล้วในต่างประเทศ)

เบื้องต้นผลการศึกษา โดยทำการวัดภูมิด้วยวิธีทั่วไป พบว่า ผู้ที่ได้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็ม 3 หลังจากฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มไปแล้ว 2 เดือน พบว่าภูมิขึ้นจาก 52 หน่วยเป็น 1,500 หน่วย ไม่ต่างจากการฉีดไฟเซอร์ 2 เข็มมากนัก ส่วนผู้ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มเป็นเข็ม 3 ภูมิขึ้นจาก 44 หน่วย เป็น 218 หน่วย ซึ่งภูมิขึ้นในระดับที่น้อยกว่าการใช้แอสตร้าเซเนก้าเป็นเข็ม 3 และยืนยันด้วยการตรวจภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะต่อเดลต้าที่มีชีวิต ก็พบว่าแอสตร้าเซเนก้าเป็นเข็ม 3 ให้ผลต่อต้านไวรัสได้ดีกว่ามาก

จากผลการศึกษาเหล่านี้ จึงขอแนะนำว่าในยามนี้ที่มีสายพันธุ์เดลตาระบาดเช่นนี้ ควรฉีดเข็มสลับ ซิโนแวคแล้วตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพดีและใช้วัคซีนที่เรามีได้อย่างมีประโยชน์สูงสุด สูตรสลับแบบนี้จะดีกว่าการฉีดแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม เพราะทำให้จบการฉีดเข็มที่ 2 ได้เร็วกว่า คือภายใน 3-4 สัปดาห์แทนที่จะเป็น 10-12 สัปดาห์ และยังมีให้ระดับภูมิคุ้มกันที่วัดได้สูงกว่าด้วย ซึ่งทางกระทรวงเริ่มฉีดแบบนี้ในขณะนี้แล้ว และไม่แนะนำการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแล้วตามด้วยชิโนแวค หรือชิโนแวค 2 เข็ม ส่วนการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ต้องรอดูว่ามีวัคซีนอะไรในประเทศ ตอนนี้แอสตร้าเซนเนก้าดีที่สุดเมื่อเทียบกับซิโนฟาร์ม ส่วนไฟเซอร์ต้องรอดูผลการทดลองที่จะออกมาในอีกประมาณ 2 อาทิตย์

ขณะนี้ทางศูนย์วิจัยคลินิกมีอีกหลายโครงการเกี่ยวกับโควิด-19 ที่กำลังดำเนินอยู่ เช่น การฉีดวัคซีนให้กับคนที่เคยติดเชื้อโควิดมาแล้ว การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในหญิงตั้งครรภ์ ในเด็ก และการฉีดวัคซีนเข้าใต้หนัง (Intradermal) สำหรับประชาชนที่สนใจอยากเข้าร่วมโครงการวิจัยในอนาคต โปรดติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์เชิญชวนสมัครเข้าร่วมโครงการได้ จากทางศูนย์วิจัยคลินิก SICRES คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โทร.02-414-1914 www.sicres.org

ข่าวเกี่ยวข้อง

กรมวิทย์เปิดผลศึกษาวัคซีนไขว้ “ซิโนแวค+แอสตร้าฯ” และผลบูสเตอร์โดสแอสตร้าเซนเนก้า

กรมควบคุมโรคเผยผลประเมินประสิทธิผลวัคซีน “ซิโนแวค” และ “แอสตร้าฯ” ในบุคลากรการแพทย์ของไทย

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org