ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อธิบดีกรมควบคุมโรคเจรจาแอสตร้าฯ คาดส่งวัคซีนเดือน ก.ย. 7.2 ล้านโดส ส่วนแผนปี 65 จัดหาหลายชนิด 120 ล้านโดส เบื้องต้นเป็นไฟเซอร์ 50 ล้านโดส แอสตร้าฯ 50 ล้านโดส พร้อมเผยแนวโน้มปีหน้าให้วัคซีนในเด็ก และกลุ่มฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ให้เป็นบูสเตอร์โดส กระตุ้นภูมิฯเข็ม 3

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด 19 ว่า การจัดสรรวัคซีนแอสตร้าเซนเนกาตั้งแต่มิ.ย. – ส.ค. ส่งมอบเฉลี่ยเดือนละประมาณ 5-6 ล้านโดส จากการเจรจราร่วมกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ก็ตอบสนอง โดยส่งสัญญาณว่าในเดือนก.ย. เป็นต้นไปนั้น ไทยเจรจราขอเพิ่มจำนวนการจัดส่งมากขึ้น ซึ่งบริษัทตอบสนอง โดยบริษัทจะส่ง 7.2 ล้านโดส เชื่อว่าการเจรจาจะมีเข้ามาเรื่อยๆ

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ส่วนการจัดหาวัคซีนปี 2565 ดูแนวโน้มการฉีดวัคซีนอาจจำเป็นต้องฉีดบูสเตอร์โดสเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้สูง ในกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ อย่างการฉีดวัคซีนในเด็ก ที่มีการวิจัยในหลายหน่วยงาน หลายประเทศ รวมทั้งการฉีดเข็ม 3 หรือบูสเตอร์ โดส เนื่องจากข้อมูลหลายแห่งพบว่า หลังจากฉีดวัคซีนไป 2 เข็ม ไม่ว่าฉีดวัคซีนอะไรก็ตาม ภูมิคุ้มกันจะตกลง จึงจำเป็นต้องหาวัคซีนเพิ่มเติมเพื่อฉีด 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเด็กที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลย และกลุ่มบูสเตอร์ โดส เพราะฉะนั้น คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติได้เสนอความเห็น และผ่านความเห็นชอบจาก ศบค. ว่าในปี 2565 จะมีการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอย่างน้อย 120 ล้านโดส และให้มีวัคซีนที่มีความหลากหลายในการฉีด ทั้ง mRNA เชื้อตาย ไวรัลเวคเตอร์ โปรตีน เป็นต้น

“สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้แสดงเจตจำนง ว่าจะนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์เบื้องต้น 50 ล้านโดส และแอสตร้าฯ 50 ล้านโดส ส่วนจะเป็นแบบไหนนั้นมีหลายบริษัทมีการผลิตรุ่น 2 ดังนั้นหากบริษัทสามารถผลิตรุ่น 2 ที่มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ก็ขอให้ส่งเป็นรุ่น 2 ส่วนเรื่องจำนวนและระยะเวลาจัดส่งจะมีการเจรจากันต่อ” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว