ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ออกแถลงการณ์ เรื่อง การออกหนังสือรับรองการตาย กรณีสันนิษฐานว่าพิษจากสารแอมเฟตามีน พร้อมรอผลตรวจระดับสารเมทแอมเฟตามีนในเลือดและผลการชันสูตรพลิกศพเพื่อนำมาสรุปในรายงานฉบับสมบูรณ์ คาดออกสัปดาห์หน้า ด้านสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยหนังสือรับรองยังไม่สิ้นสุด ส่วนของคดีต้องรอรายงานชันสูตร

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2564 โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง การออกหนังสือรับรองการตาย กรณีสันนิษฐานว่าพิษจากสารแอมเฟตามีน โดยใจความระบุว่า ผู้เสียชีวิตอายุ 24 ปีได้รับการส่งตัวมาจากโรงพยาบาลปริ้นส์ปากน้ำโพ เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2564 เวลา 19.20 น.และเสียชีวิตลงในวันที่ 6 ส.ค. 2564 เวลา 13.00 น. โดยทราบประวัติจากโรงพยาบาลปริ้นส์ปากน้ำโพ ว่าผู้ตายวิ่งหนีตำรวจขณะจับยาเสพติดแล้วล้มลงหมดสติ ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวขณะอยู่โรงพยาบาล

หลังเสียชีวิตแล้วได้ทำการชันสูตรพลิกศพที่กลุ่มงานนิติเวช โดยแพทย์นิติเวชและทำการผ่าศพวันที่ 7 ส.ค. 2564 เวลา 09.00 น. เนื่องจากต้องรอผลตรวจโควิดของผู้ตาย การตรวจคัดกรองปัสสาวะพบสารเมทแอมเฟตามีนและสารแอมเฟตามีน โดยลงสาเหตุการตายเบื้องต้นในหนังสือรับรองการตายว่า สันนิษฐานว่าพิษจากสารแอมเฟตามีน ขณะนี้กำลังรอผลตรวจระดับสารเมทแอมเฟตามีนในเลือดและผลการชันสูตรพลิกศพเพื่อนำมาสรุปในรายงานชันสูตรฉบับสมบูรณ์ที่จะออกในสัปดาห์หน้า

หนังสือรับรองการตายที่แพทย์ออกให้หลังการผ่าพิสูจน์ทันทีเพื่อให้ญาติไปทำมรณะบัตรเป็นเพียงข้อมูลขั้นต้น ที่อาจจะเหมือนหรือแตกต่างจากรายงานการชันสูตรพลิกศพที่มีในภายหลังได้ เพราะผลตรวจชิ้นเนื้อจากกล้องจุลทรรศน์และผลตรวจทางห้องปฏิบัติพิษวิทยาที่ออกมาในภายหลังจะทำให้สรุปสาเหตุการตายได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น

ขณะนี้ทางโรงพยาบาลกำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากผู้ที่อยู่ในเหตุการรักษาพยาบาลและตรวจศพทั้งหมดเมื่อมีความคืบหน้าประการใดจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป

ด้าน พ.ต.อ. ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า หนังสือรับรองการตายจากคดี ผกก.เมืองนครสวรรค์ ทำร้ายผู้ต้องหาคดียาเสพติดถึงแก่ความตายว่า หนังสือรับรองการตายที่ปรากฎในสื่อยังไม่ถือว่าสิ้นสุด หนังสือรับรองการตายเป็นเพียงส่วนประกอบให้เขต ออกใบมรณะบัตรเท่านั้น แต่ในส่วนของคดีที่เป็น คดีอาญา ปกติ ต้องมีรายงานชันสูตร ที่เป็นการผ่าศพ แยกธาตุ ประกอบ หากมีความผิดปกติในสาเหตุการตาย เพื่อใช้ในการดำเนินคดี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า ทางเจ้าของคดี (ตำรวจ) ได้มีการแจ้งแพทย์นิติเวช ว่าอย่างไร ส่วนกรณีที่มีคลิปปรากฎการทำร้ายร่างกายแบบขาดอากาศ หากมีการนำส่งร่างผู้ป่วยถึงโรงพยาบาล บางครั้งหลักฐานการทำร้ายร่างกายไม่ได้ปรากฎในทันที ต้องใช้เวลา และต้องใช้การผ่าศพแยกธาตุเท่านั้น จึงจะทราบข้อเท็จจริง

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org

เรื่องที่เกี่ยวข้อง