ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรคเผยแผนจัดหาวัคซีนปี 64 เกินเป้าหมาย ล่าสุดรวม 3 วัคซีนหลัก “ซิโนแวค-แอสตร้าเซนเนก้า-ไฟเซอร์” 124 ล้านโดส แบ่งเป็น “ซิโนแวค” เข้ามา ก.ย.-ต.ค. เดือนละ 6 ล้านโดส “แอสตร้าฯ” เข้ามา ก.ย. 7.3 ล้านโดส ส่วน ต.ค.-ธ.ค.อาจส่งมอบได้มากขึ้น ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า ก.ย. และไฟเซอร์ ล่าสุดรับแจ้งแบบไม่เป็นทางการคาดปลาย ก.ย.นี้ 2 ล้านโดส และตามสัญญาจะส่งให้ได้ 30 ล้านโดสสิ้นปีนี้

เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้หายป่วยจากโควิดรวม 20,535 ราย สูงกว่ายอดติดเชื้อใหม่ 17,984 ราย เสียชีวิต 292 ราย แนวโน้มสถานการณ์ของประเทศเริ่มชะลอตัวและลดลงเห็นได้ชัด ซึ่งนอกจากตัวเลขติดเชื้อแล้ว ยังมีตัวเลขอื่นๆ ประกอบกัน ทั้งการตรวจเชิงรุก การป่วยหนักใน รพ. แนวโน้มก็เป็นทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะสถานการณ์ติดเชื้อในต่างจังหวัดเห็นตัวเลขชัด อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดไม่ให้เกิดความประมาท

สำหรับ กทม.ยังมีการติดเชื้อใหม่ 4 พันกว่ารายต่อวันมาเป็นสัปดาห์ แม้ภาพรวมไม่พุ่งสูงขึ้นมากอย่างที่กังวล แต่ยังมีแนวโน้มต้องระมัดระวังและต้องขอความร่วมมือดำเนินตามมาตรการต่างๆ จากประชาชนและองค์กรอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพื้นที่ปริมณฑลและภาคกลางบางส่วน เช่น สมุทรปราการ ชลบุรี และสมุทรสาคร ที่ยังติดเชื้อหลักพันรายต่อวัน การดำเนินงานมาตรการต่างๆ ต้องเข้มข้นต่อเนื่อง ส่วนต่างจังหวัดติดเชื้อเพิ่มขึ้นจาก 2-3 ส่วน โดยส่วนแรกประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ระบาดกลับไปที่บ้าน เยี่ยมญาติ โดยไม่ทราบว่าติดเชื้อแล้ว หรือทราบว่าติดเชื้อแต่กลับไปรักษาที่บ้าน

"ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ระบาด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม ถ้ากลับไปขอให้ระมัดระวังโดยแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่รับทราบ เพื่อเฝ้าระวังกักตัวตามมาตรการแต่ละพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดในพื้นที่ต่อไป และการตรวจด้วย ATK มีประโยชน์ เป็นแนวโน้มใช้พยากรณ์ว่าการระบาดเป็นอย่างไร โดยเฉพาะ กทม.ที่มีการระบาดค่อนข้างสูง เดิมพบว่าการตรวจ ATK ทั่ว กทม.หลายจุดมีแนวโน้มพบเกิน 10% แต่ระยะหลังพบลดลง เป็นสัญญาณที่ดี แต่ต้องมีมาตรการการดำเนินงานการตรวจเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง" นพ.โอภาสกล่าว

นพ.โอภาสกล่าวว่า ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมาฉีดได้ 915,738 โดส เป็นเข็มแรก 547,128 ราย เข็มสอง 361,284 ราย และเข็มสาม 7,326 ราย ยอดฉีดสะสมรวม 30,420,507 โดส เป็นเข็มแรก 22,617,701 ราย คิดเป็น 31% ของประชากร เข็มสองสะสม 7,221,368 ราย คิดเป็น 10% ของประชากร แนวโน้มการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสูงขึ้นในช่วง ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีวัคซีนเข้ามามากขึ้น ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ที่เริ่มตั้งแต่ มิ.ย.-ส.ค. ฉีดให้ได้เดือนละ 10 ล้านโดส ซึ่ง ส.ค.ฉีดได้เกินเป้าหมาย เพราะจัดหาวัคซีนเข้ามาได้ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ สามารถนำเข้ามาได้รวม 13.8 ล้านโดส แลมีวัคซีนซิโนฟาร์มที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นำเข้ามา ยอดการฉีด ส.ค.จึงสูงเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ประชาชนจำนวนมากยังไม่ได้ฉีด จึงต้องเร่งนำวัคซีนเข้ามาและเร่งรัดฉีดต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงป่วยอาการรุนแรง คือ ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ขณะนี้ฉีดเข็มแรกประมาณ 40% ของเป้าหมาย รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ เมื่อไปฝากครรภ์ตาม รพ.ต่างๆ ขอรับการฉีดได้ที่ รพ.ฝากครรภ์ ซึ่งขณะนี้ฉีดวัคซีน 30 กว่าล้านโดส ยังไม่มีรายใดเสียชีวิตจากวัคซีนโดยตรงจากการประเมินตรวจข้อมูลการชันสูตรศพรายที่เสียชีวิตของผู้เชี่ยวชาญ เพราะฉะนั้นวัคซีนมีความปลอดภัย ทั่วโลกฉีดหลายพันล้านโดส ข้อมูลตรงกันว่าความปลอดภัยมีค่อนข้างสูงตามมาตรฐานกำหนดไว้ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ขอให้กลุ่มเสี่ยงไปรับวัคซีนตามที่กำหนดและนัดหมาย

นพ.โอภาสกล่าวว่า ส่วนแผนการจัดหาวัคซีนของประเทศไทยปี 2564 เพื่อบรรลุเป้าหมายตามแผน 100 ล้านโดส ครอบคลุม 50 ล้านคน ประมาณการณ์จัดหาวัคซีน ก.ย.-ธ.ค.นี้ แบ่งเป็น ซิโนแวค จะมีเข้ามา ก.ย.-ต.ค. เดือนละ 6 ล้านโดส , แอสตร้าเซน้นก้า เข้ามา ก.ย. 7.3 ล้านโดส ส่วน ต.ค.-ธ.ค.อาจส่งมอบได้มากขึ้น ขั้นต่ำไม่น้อยกว่า ก.ย. ถือเป็นสัญญาณที่ดี และไฟเซอร์ ได้รับการแจ้งแบบไม่เป็นทางการน่าจะเข้ามาปลาย ก.ย.นี้ 2 ล้านโดส และมีคำมั่นสัญญาจะส่งให้ได้ 30 ล้านโดสตามที่ลงนามสัญญาภายในสิ้นปีนี้ ฉะนั้นจะมียอดการจัดหาวัคซีน 3 วัคซีนหลัก 124 ล้านโดส เกินเป้าหมายที่กำหนด ศักยภาพการฉีดที่เห็นช่วงหลัง มากกว่า 6 แสนโดสต่อวัน น่าจะฉีดได้ตามเป้าหมาย

นอกจากนี้ ยังมีราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มมาเรื่อยๆ ยอดการฉีดก็จะเพิ่มขึ้นไป รวมถึงองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ร่วมกับเอกชนหลายแห่งนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา น่าจะมาได้ไตรมาส 4 ปีนี้ ประมาณการณ์เกินกว่า 100 ล้านโดส ก็น่าจะบรรลุเป้าหมาย ขอให้ประชาชนสบายใจ ส่วนกลุ่มใดฉีดก่อนหลังเป็นไปตามคำแนะนำคณะกรรมการทางการแพทย์และสาธารณสุข ขอให้ไปรับวัคซีนเพื่อประเทศเราปลอดภัยจากโควิดมากยิ่งขึ้น