ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรค เผยคณะทำงานด้านบริหารจัดการฯ วัคซีนไฟเซอร์ แจ้ง สสจ.ทุกจังหวัด เร่งรัดการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนด พร้อมตรวจสอบบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าได้รับวัคซีนครบถ้วน และเร่งรัดการฉีดให้กับชาวต่างชาติ นักเรียนและนักศึกษาที่จะเดินทางไปต่างประเทศให้แล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้   

         

 เมื่อวันที่ 29 ส.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ตามที่คณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (วัคซีนโควิด 19) กรณีวัคซีนโควิดไฟเซอร์ (Pfizer) มีการพิจารณาแนวทางการให้บริการวัคซีนไฟเซอร์สำหรับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ล่าสุดได้รับแจ้งจากพื้นที่ว่า มีวัคซีนคงเหลือในหลายจังหวัดจำนวนหนึ่ง 

 

ล่าสุดจึงออกแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์ส่งให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด และกรุงเทพมหานคร เพื่อแจ้งให้โรงพยาบาลดำเนินงาน กำหนดแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์ คงเหลือในพื้นที่จากลอต 700,000 โดส สำหรับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ให้ดำเนินการตรวจสอบว่า บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าที่เข้าเกณฑ์ได้รับวัคซีนครบถ้วนทุกรายแล้วหรือไม่ พร้อมสำรองวัคซีนเข็มที่ 2 สำหรับผู้ครบกำหนดฉีดก่อนวัคซีนหมดอายุ แล้วจึงนำวัคซีนคงเหลือไปใช้สำหรับกรณีอื่น ๆ  

          

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ได้กำชับเรื่องการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 2 ให้ห่างจากวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 1 ให้เป็นไปตามกำหนดการเดิมก่อน หากมีวัคซีนคงเหลือจึงฉีดให้แก่ผู้ที่มีระยะห่างจากเข็ม 1 อย่างน้อย 4 สัปดาห์ โดยพิจารณาให้ฉีดในกลุ่มเสี่ยง “608” คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป นอกจากนี้ ยังเร่งรัดการให้บริการวัคซีนไฟเซอร์สำหรับชาวต่างชาติ นักเรียนและนักศึกษาที่จะเดินทางไปต่างประเทศ โดยให้ดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน 2564