ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมอนามัย เผยตั้งแต่ 1 ก.ย. นี้ ศบค. ปรับมาตรการร้านอาหารเปิดให้บริการนั่งกินในร้านได้ ภายใต้ข้อกำหนด ชี้งดจัดบุฟเฟต์ เว้นระยะบุคคลและโต๊ะอย่างน้อย 1-2 เมตร พร้อมประเมินอีก 1 เดือน

 

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 1 ก.ย.2564 ที่ กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงมาตรการปลอดภัยจากโควิด-19 สำหรับร้านอาหารและสถานประกอบการ ว่า วันนี้เป็นวันแรกของการบังคับใช้ข้อกำหนดฉบับที่ 32 ซึ่งไม่ได้ปรับเปลี่ยนการกำหนดพื้นที่ควบคุมสถานการณ์โควิด-19 แต่ปรับมาตรการเพื่อกำหนดทิศทางในอีก 1 เดือนข้างหน้า โดยมาตรการของร้านอาหาร ทุกจังหวัดยังห้ามการดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ส่วนมาตรการอื่น แบ่งเป็น 1.พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด เปิดบริการไม่เกิน 20.00 น. เดิมไม่อนุญาตให้นั่งรับประทานอาหารในร้าน แต่ให้จำหน่ายแบบขนส่ง แต่ปรับให้นั่งในร้านได้ แต่กำหนดว่าห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ จะนั่งในร้านได้ไม่เกิน 50% ของพื้นที่ ส่วนพื้นที่เปิดโล่ง ไม่เกิน 75% 2.พื้นที่ควบคุมสูงสุด 37 จังหวัด เปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. นั่งในร้านได้ตามปกติ แต่รวมกลุ่มคนได้ไม่เกิน 50 คน และ 3.พื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด เปิดได้ตามปกติ นั่งในร้านได้ตามปกติ แต่รวมกลุ่มคนได้ไม่เกิน 100 คน

 

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า หลังจากที่มีข้อกำหนดออกมาใช้วันที่ 1 ก.ย.64 จะมีการประเมินผลมาตรการข้างต้น 1 เดือน โดย สธ.เตรียมมาตรการสำหรับบังคับใช้ในอนาคต หากสถานการณ์เป็นไปตามที่กำหนด ศบค. อาจพิจารณาบังคับใช้มาตรการในวันที่ 1 ต.ค.64 เป็นต้นไป มาตรการปลอดภัยสำหรับร้านอาหาร (Covid Free Setting) พื้นที่ห้องปรับอากาศหรือเปิดโล่ง ต้องถ่ายเทอากาศได้ดี เช่น ร้านอาหารขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย รถเข็น รวมถึงร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า หรือสถานประกอบการอื่นที่คล้ายกันด้วย รายละเอียดมาตรการประกอบด้วย

 

1.การจัดการสภาพแวดล้อม(Covid Free Environment) เน้นความสะอาดโต๊ะ ที่นั่ง ก่อนและทันทีหลังให้บริการเสร็จ ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม ห้องน้ำทุก 1-2 ชั่วโมง จัดอุปกรณ์ทานอาหารเฉพาะบุคคล มีเจลแอลกอฮอล์ที่โต๊ะอาหาร งดการจัดอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลและโต๊ะอาหารอย่างน้อย 1-2 เมตร หากมีพื้นที่จำกัดต้องทำฉากกั้น ไม่ให้นั่งเผชิญหน้ากัน โดยต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการระบายอากาศในร้าน เปิดให้ระบายอากาศทุก 1 ชั่วโมงตามความเหมาะสม ต้องเปิดหน้าต่าง/ประตู อย่างน้อย 30 นาทีก่อนและหลังการปิดระบบระบายอากาศ จำกัดเวลานั่งรับประทานไม่เกิน 1 ชั่วโมง และ มีการประเมินผ่าน Thai Stop COVID-19

 

2.การจัดการคน(Covid Free Personnel) กำหนดว่า ผู้เข้ารับบริการต้องมี Covid Free pass คือ จะต้องฉีดวัคซีนครบโดส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน เคยมีประวัติติดเชื้อ 1 เดือน ไม่เกิน 3 เดือน หรือ คัดกรองความเสี่ยงจากเว็บ Thai save Thai รวมถึงการตรวจด้วยแอนติเจน เทสต์ คิท(ATK) เป็นลบ ในส่วนของพนักงานร้านอาหารต้องเพิ่มมาตรการคัดกรองด้วย ATK ทุก 7 วันหรือตามความเสี่ยง

“ผู้ประกอบการพื้นที่สีแดงเข้ม ในวันที่ 1 ก.ย. เป็นต้นไป สามารถเปิดร้านได้ตามปกติ ไม่ต้องตรวจ ATK เป็นประจำ แต่ให้เตรียมความพร้อมและดำเนินการตามความพร้อม โยยึดหลัก DMHTT อย่างเข้มงวด โดยเดือน ก.ย. ให้เร่งรัดพนักงานไปฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมาหนคร สามารถกำหนดข้อบังคับที่เข้มงวดกว่าได้ตามสถานการณ์ระบาดและความสามารถที่ระบบสาธารณสุขแต่ละจังหวัดรองรับ” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า สำหรับเด็กที่ยังอายุไม่ถึง 18 ปีที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน เนื่องจากข้อกำหนดของผู้ผลิตว่าให้ใช้สำหรับอายุ 18 ปีเป็นต้นไป สามารถเข้าใช้บริการร้านอาหารได้ แต่ให้ตรวจคัดกรองความเสี่ยงผ่านไทยเซฟไทย และดำเนินมาตรการป้องกันตัวเองสูงสุด หรืออาจจะสั่งกลับไปรับประทานที่บ้านเพื่อความปลอดภัย

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า สำหรับสถานประกอบการต้องประเมินตนเองผ่าน Thai Stop COVID-19 เพื่อปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยของร้าน หากประชาชนที่พบข้อกังวลว่าร้านอาหารไม่ทำตามมาตรการสามารถแจ้งการประเมินร้านนั้นๆ ผ่าน Thai Stop COVID-19 ได้เช่นกัน