ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองนายกฯ-รมว.สธ.พร้อมอธิบดี สบส. มอบนโยบาย “อสม. พร้อมบอกต่อ ATK” ย้ำ อสม.มีส่วนสำคัญช่วยค้ำยันระบบสาธารณสุข “อนุทิน” ลั่นไม่เคยลืมพระคุณ โดยกระทรวงฯ อยู่รอด เพราะมี อสม. ชี้ระบบสาธารณสุขไทยไม่ได้ล้มสลายเหมือนใครปรามาส ขณะเดียวกันพร้อมฉีดวัคซีนอสม.อีก 3 แสนคน กลางเดือน ต.ค.นี้ ครบ 100% ขอพี่น้อง อสม.อย่าน้อยใจ ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ เตรียมนำเพลงเสื้อวิเศษ เพลง อสม.เปิดในครม.สัปดาห์หน้า

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 ก.ย.2564  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ประชุมทางไกลมอบนโยบาย “อสม. พร้อมบอกต่อเรื่อง ATK สำหรับประชาชน” ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร็นซ์

นายอนุทิน กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ในช่วงหลังสถานการณ์เริ่มทรงตัว มีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางดีขึ้น แม้ยังมีการระบาดจำนวนมาก แต่อัตราการว่างของสถานพยาบาล ตลอดจนยา เวชภัณฑ์ ความพร้อมของสถานพยาบาลและแพทย์ ตอนนี้ค่อนข้างคลายตัวลง สามารถให้บริการผู้ติดเชื้อที่จำเป็นต้องรับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเขตกทม. อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เรามีวิกฤตอย่างรุนแรงในเดือน ก.ค. นั้น ซึ่งกทม.จะมีภาพผู้ป่วยติดอยู่ที่บ้าน ไม่มีรถพยาบาลไปรับ เตียงที่รพ.เต็ม ล้น แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดในต่างจังหวัด แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุข ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงสาธารณสุข

“ในฐานะที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผมยืนยืนได้ว่า ในกรุงเทพฯ อสม.มีน้อย ส่วนใหญ่เป็น อสส. แต่ต่างจังหวัด เรามีพี่น้อง อสม. ทั่วทุกหมู่บ้าน ทั่วทุกตำบล ที่ต่างจังหวัดเรามีโรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลอำเภอตลอดจนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และมีพี่น้อง อสม.มาดูแลคนไข้ เป็นเหตุให้เดือนก.ค. เข้าส.ค. ซึ่งผมได้ปรึกษากับผู้บริหารสาธารณสุข พยาบาลประสานงานกับกระทรวง ทบวง กรมอื่นๆ เพื่อขอให้มีการผ่องถ่ายให้ผู้ป่วยไปรักษาตัวตามภูมิลำเนา ซึ่งหลังจากทุกส่วนให้ความร่วมมือ ขณะนี้ได้นำผู้ป่วยกลับไปรักษาภูมิลำเนาเกือบ 3 แสนคน เหมือนการที่เราไปเจาะให้หนองระบาย ให้ความเจ็บป่วยก็คลายลง เพียงแต่ว่าระบายไปแล้วก็ต้องเอาสำลีมาซับ ไม่ให้เลอะเทอะ ซึ่งสำลีคือ อสม.นี่เอง โดยมีการจัดกับกระทรวงคมนาคม ในการจัดรถด่วนขบวนพิเศษมาช่วยจัดส่งผู้ป่วย” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า การประชุมวันนี้ เนื่องจากเรามีการจัดหาชุด ATK มารองรับการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยตัวเอง เนื่องจากการตรวจ RT-PCR ต้องตรวจในห้องแล็ป ซึ่งต้องใช้เวลา แต่ชุดตรวจ ATK เป็นการตรวจหาเชื้อได้โดยไม่ต้องรอแล็ป ซึ่ง อย. ได้มีการขึ้นทะเบียนชุดตรวจ ATK ที่มีคุณภาพ ด้วยเหตุนี้จึงต้องรบกวนทาง อสม. ในการช่วยแนะนำการตรวจโควิดด้วยตัวเองแก่ประชาชนในพื้นที่ของท่าน ซึ่งบางท่านตรวจเองได้ แต่บางท่านยังไม่สามารถตรวจได้เอง ต้องมีคนแนะนำ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการตรวจด้วย ATK ก็จะสามารถคัดกรองได้มากขึ้น และเรายังมีระบบการรักษาที่เรียกว่า Home Isolation คือ การแยกกันรักษาตัวที่บ้าน หรือการแยกรักษาตัวในชุมชนที่เรียกว่า Community Isolation โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังอยู่ในอัตรามาตรฐาน โดย 80%ของผู้ติดเชื้อมีสุขภาพดี ยกเว้นกลุ่ม 608 ที่อายุมากหรือมีโรคประจำตัว อาจมีการเปลี่ยนเป็นอาการหนัก แต่เมื่อขึ้นทะเบียนในระบบก็สามารถนำส่งรพ.ได้ สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยแก้ปัญหาคอขวดความหนาแน่นใน รพ.ได้

“วันนี้การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดสะสมกว่า 40 ล้านเข็ม และกลางเดือน ต.ค. พี่น้องอสม.อีก 3 แสนคน จากที่มีอยู่กว่า 1 ล้านคน ซึ่งเราฉีดไปแล้วกว่า 70% อีก 3 แสนคนจะได้รับวัคซีนเต็มที่ 100% ดังนั้น ภารกิจในการดูแลคน การสอนการใช้ชุดตรวจ ATK จะปลอดภัย อย่างไรก็ตาม 3 แสนคนที่ยังไม่ได้ฉีด เพราะคิวยาว เนื่องจากมีคนสูงอายุด้วย ซึ่งอธิบดีกรมควบคุมโรคอยู่ในการประชุมครั้งนี้ ขอให้ท่านตัดบัญชีส่งวัคซีนให้พี่น้องอสม.ด้วย ขาดไม่ได้ สำหรับ 3 แสนคนอย่าน้อยใจว่าทำไมไม่อยู่ในกลุ่มแรก อาจเป็นเรื่องโชคดี เพราะช่วงหลังพบสูตรการฉีดวัคซีน ซิโนแวคเข็มแรก และตามด้วยแอสตร้าเป็นเข็มสอง ใช้เวลาระหว่างเข็มเพียง 3 สัปดาห์ แต่ภูมิคุ้มกันกลับสูงกว่าซิโนแวค 2 เข็ม หรือมีความทัดเทียมกับแอสตร้าฯ 2 เข็ม ดังนั้น 3 แสนคนสุดท้ายจะได้รับซิโนแวค จากนั้นได้แอสตร้า ส่วนผู้ที่ได้รับซิโนแวคไปแล้ว 2 เข็ม สามารถมาบูสเตอร์เข็ม 3 ด้วยแอสตร้าฯ ทุกคนจะมีความปลอดภัย ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ” รัฐมนตรีฯ กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า พี่น้อง อสม.ที่ได้รับวัคซีนไปแล้วจะมี 3 ประเภท คือ 1. ฉีดซิโนแวค 2 เข็มแล้ว จะได้รับการกระตุ้นด้วยแอสตร้าฯ ในเดือนหน้า 2. กลุ่มรับแอสตร้าฯ 2 เข็ม แต่หากใครรับแอสตร้าฯเข็มแรกแล้ว ไม่มีทางเลือกอื่นก็ต้องรอแอสตร้าฯเข็ม 2 และ 3.กลุ่มที่รับซิโนแวคและตามด้วยแอสตร้าฯ โดยหากเราฉีดวัคซีนให้ อสม.ครบ 1 ล้านคนก็จะสร้างภูมิต้านทานให้ตัวเองได้ และจากนี้ไปทางกรมควบคุมโรคมีการติดตามว่า หากภูมิคุ้มกันตกลงเมื่อไหร่ ก็ต้องมีการเติมเรื่อยๆ ความยุ่งยากจะไม่มี ทุกวันนี้ยุ่งยาก เพราะเมื่อฉีดเข็มแรกไปแล้ว ต้องรอเข็ม 2 มีการจัดเตรียมความเสี่ยง เผื่อเข็ม 2 มาไม่ทัน ทำให้เกิดความวุ่นวายจัดคิว ต้องขออภัยด้วย เพราะเราต้องการมาตรฐานสูงสุด

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชุด จัดหามาแล้วและจะกระจายให้กับประชาชน โดยมีพี่น้องอสม. คอยให้คำแนะนำแก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งนอกจากการสอนวิธีการตรวจแล้ว ในเรื่องการกำจัดชุด ATK ที่ใช้แล้วยังเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากทิ้งไม่ถูกสุขลักษณะย่อมทำให้เชื้อโรคกระจายได้ ไม่ใช่แค่โรคโควิด แต่อาจมีเชื้ออื่นๆ ทั้งหวัด วัณโรค เชื้อทางเดินหายใจ พี่น้อง อสม.ต้องระวัง ต้องทิ้งแยก เพราะถือเป็นขยะติดเชื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะการประชุมทางไกล นายอนุทิน ได้สาธิต การตรวจเชื้อโควิดด้วยชุด ATK ยี่ห้อ Lepu ที่ทาง สปสช.จัดหา พร้อมทั้งแนะนำการใช้ และวิธีการเก็บทิ้งที่ต้องบอกประชาชนว่า อย่าทิ้งลงขยะทั่วไปทันที แต่ต้องจัดเก็บในถุงซิปล็อกที่มากับชุดตรวจ และหาถุงมัดอีกรอบและแยกทิ้งให้ชัดเจนว่า เป็นขยะติดเชื้อ โดยก่อนทิ้ง ให้พี่น้องอสม. ถ่ายรูปผลการตรวจก่อนทุกครั้ง

(ข่าวเกี่ยวข้อง : อสม.ประกาศเจตนารมณ์ภารกิจตรวจ ATK)

นายอนุทิน กล่าวว่า นี่คือ หน้าที่ของหมอคนแรก ของอสม. จาก 3 หมอ หากทำให้ชาวบ้านได้เอง ก็ต้องมีชุดป้องกัน อาจไม่ต้องถึงขั้นชุด PPE แต่ขอให้มีหลักการในการป้องกันโรค ทั้งหมดนี่เป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันโรคครอบจักรวาล หรือ Universal Prevention โดยหลักคือ ให้ระวังทั้งหมด

“ผมไม่เคยลืมพระคุณ ของ อสม. กระทรวงสาธารณสุข อยู่รอดทุกวันนี้ เพราะเรามีอสม. แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทุกครั้ง ระบบสาธารณสุขไทยไม่ได้ล้มสลาย เรามีอสม. 1 ล้านคนค้ำยันอยู่ และยังมีแพทย์ มีองค์ความรู้มีประสบการณ์ทั้งหลายมาประกอบเป็นขา 4 ขา อสม.คือ ขาหนึ่ง องค์ความรู้ทางการแพทย์ แพทย์พยาบาล งบประมาณที่เรามีอยู่ประกอบเป็น 4 ขา ทำให้ระบบสาสธารณสุขเรามีความแข็งแกร่ง รับรองไม่มีการล้มสลายได้ตามคำปรามาสของใครเป็นอันขาด” นายอนุทิน กล่าว และว่า ช่วงนี้จะอัดวัคซีนเต็มที่ จะมาอย่างต่อเนื่อง เพราะวัคซีนนิ่งแล้ว และเราไม่กังวลว่า มาแล้วจะขาด จะต้องรอเข็ม 2 ตอนนี้เราสั่งไปถึงปีหน้าแล้ว เป็นเข็มเติมภูมิฯ น่าจะมีความเพียงพอ เมื่อถึงระยะหนึ่งเราจะอยู่กับโควิด และเปิดประเทศได้ เพียงแต่เราป้องกันตัวเองให้มากขึ้น

ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่าจะนำเพลงเสื้อวิเศษ ซึ่งเป็นเพลง อสม.ไปเปิดในการประชุมครม.สัปดาห์หน้า

เพลง เสื้อวิเศษ โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ