ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เตรียมปิด 2 จุดฉีดวัคซีนบริการประชาชน เหตุพื้นที่กรุงเทพฯ ฉีดจำนวนมากเพียงพอแล้ว หลังจากนั้นค่อยกลับมาเปิดบริการอีกครั้งในการเปิดบริการจุดฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ในช่วงปลายปี ส่วนโมเดอร์นาเข้ามา ก.พ.-มี.ค.65

เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2564 ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดเผยว่า จากกรณีราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิด 2 จุดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 เข็มที่ 1 และเข็ม 2 แก่ประชาชน ภายในพื้นที่บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) สำนักงานแจ้งวัฒนะ เริ่มมาตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ค.2564 ขณะนี้มีจุดฉีดวัคซีนทั่วไป ตั้งขึ้นเป็นจำนวนมากแล้ว ดังนั้นราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จึงพิจารณาว่าจะปิดจุดฉีดวัคซีน ทั้ง 2 จุด ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในเร็วๆ นี้ เนื่องจากในกรุงเทพฯ รัฐบาลมีการจัดบริการเข็ม 1 และเข็ม 2 มากเพียงพอแล้ว ซึ่งจากนั้นเราค่อยกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง ในการเปิดจุดบริการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ในช่วงปลายปีนี้

เมื่อถามว่า กรณีการกระตุ้นเข็ม 3 ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ต้องเริ่มเมื่อไหร่ ศ.นพ.นิธิ กล่าวว่า วัคซีนบูสเตอร์โดส จะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการจัดหาให้ ตราบใดที่ยังมีการระบาดของโรค ทางราชวิทยาลัยฯก็เช่นเดิม หากรัฐบาลจัดหาเพียงพอเราก็จะออกมาทำเรื่องการวิจัยอื่นๆ ซึ่งรัฐบาลไม่ทิ้ง อย่างไรก็ตาม สำหรับวัคซีนที่จะกระตุ้นในคนไทยนั้น ที่เคยบอกไว้คือ อย่าไปสนใจระดับภูมิคุ้มกัน แต่ถ้ามีการระบาดอยู่ สำหรับวัคซีนเชื้อตายควรกระตุ้นหลัง 4-6 เดือนหลังเข็ม 2 ส่วนวัคซีน mRNA จะ 6-8 เดือน แต่ก็ต้องพิจารณาเรื่องความเสี่ยงของคนๆนั้น ว่าหากเป็นโรคจะมีอาการรุนแรงหรือไม่ และเสี่ยงจะติดโรคมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ ยังต้องขึ้นอยู่ว่า เวลานั้นมีการระบาดในสังคมมากน้อยแค่ไหน หากระบาดรุนแรงก็ต้องหดระยะเวลาให้สั้นลง จึงกำหนดเป็นกฎตายตัวไม่ได้ เพราะเชื้อโรคก็เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สิ่งสำคัญเวลานี้ต้องฉีดวัคซีนให้คนไทยได้ครบ 2 เข็มมากที่สุด

เมื่อถามว่าวัคซีนโมเดอร์นาที่ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ลงนามจะนำเข้ามาเมื่อไหร่ ศ.นพ.นิธิ กล่าวสั้นๆว่า ประมาณปี 2565 น่าจะประมาณเดือน ก.พ.-มี.ค.2565