ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ทนายความ “ไพศาล” พร้อมผู้เสียหายยื่นเรื่อง สธ.ตรวจสอบศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดในวัดแห่งหนึ่ง หลังถูกร้องมีการเรียกเก็บเงิน ไม่ได้ดำเนินการตามการฟื้นฟูที่ถูกต้อง

เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 20 กันยายน 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ นำผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เพื่อให้ตรวจสอบศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ซึ่งตั้งอยู่ในวัดแห่งหนึ่ง ภายในอ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี โดยมีนายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนพ.มนัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์รับเรื่องร้องเรียน

นายไพศาล กล่าวว่า มีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนว่าสถานที่แห่งนี้ ไม่บำบัดฟื้นฟูไปตามกฎระเบียบของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) และสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) จึงเข้าร้องเรียนที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)และกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) เพราะผู้ปกครองที่นำบุตรหลานไปบำบัดอ้างว่ามีการซ้อมทรมาน และยังให้ทำสัญญาและเรียกค่าไถ่ หากจะออกมาต้องจ่ายเงิน และการบำบัดรักษานั้น ผู้เสียหายอ้างว่าใช้กลุ่มบุคคลที่ดำเนินการเรื่องนี้ เหนืออื่นใด มีการกล่าวอ้างว่าเสียชีวีตในนั้นด้วยราว 2-4 ราย และ มีกว่า 300 ชีวิตในนั้น มีห้องน้ำ 2 ห้อง กินอยู่ลักษณะคล้ายค่ายกักกัน ซึ่งไม่เป็นไปตามการฟื้นฟู

“ลักษณะนี้เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 313 ถ้ารู้ว่ากักขังหน่วงเหนี่ยว และมีการเรียกรับเงิน ทรมานจิตใจ โทษถึงจำคุกตลอดชีวิต ส่วนศูนย์นี้ขอให้สธ.และยธ.มาตรวจสอบ ซึ่งจริงๆต้องปิดเพราะเห็นว่าเปิดมาหลายสิบปีแล้ว เพราะถ้าสภาพเป็นไปตามที่ผู้เสียหายแจ้ง ต้องปิด มันไม่ใช่การฟื้นฟู ส่วนคนที่มาดูแลก็ไม่ได้ถูกอบรมมา และทราบว่ามีนายหน้า เป็นเครือข่าย มีการข่มขู่ในการนำส่งที่ศูนย์ แต่ทั้งหมดนี้ทนายยังไม่ยืนยันเป็นข้อกล่าวอ้างของผู้เสียหาย จะต้องมีการลงไปตรวจสอบก่อน” นายไพศาล กล่าว

นายไพศาล  กล่าวอีกว่า สธ.ได้มอบให้สสจ.ลงพื้นที่ด่วนในการตรวจสอบเพราะมีอำนาจพิเศษในการเข้าตรวจสอบภายในโดยไม่ต้องมีหมายค้น เนื่องจากศูนย์แห่งนี้แม้จะมีการขออนุญาตเปิดมานาน แต่การดำเนินการตามคำกล่าวอ้างของผู้เสียหายไม่เป็นไปตามพรบ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.2545 ผิดกฎหมายอาญา และเป็นการทำสัญญาโดยสมัครใจถ้าจะเลิกต้องเลิกได้ แต่นี่ไม่ใช่ ซึ่งผู้เสียหายระบุว่า ผู้ที่ไปในศูนย์นี้ต้องรักษา 12 เดือน โดยให้ติดต่อญาติแค่ 2 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นไม่ให้ติดต่อเลย 3 เดือน และต้องเสียค่าแรกเข้าเป็นหลักหมื่นบาท รายเดือนอีก และออกก่อนกำหนดต้องเสียเงินเป็นหมื่นอีกเช่นกัน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง