ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำ! ต.ค.นี้ ฉีดวัคซีนแบบก้าวกระโดด เหตุวัคซีนเข้ามาจำนวนมากอย่างน้อย 24 ล้านโดส ยังไม่รวมซิโนฟาร์ม คาดสิ้นปีฉีดครบ 2 เข็มครอบคลุม 74% พร้อมฉีดบูสเตอร์โดส ให้ประชาชนฉีดครบโดสตั้งแต่ช่วง มี.ค.ถึง มิ.ย. ขอติดตามข่าวสารแจ้งนัดให้มาฉีดต่อไป

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,975 คน หายป่วยกลับบ้าน 14,700 คน โดยแนวโน้มผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเรื่อยๆ ซึ่งต้องขอขอบคุณประชาชนทุกคน ที่ร่วมมือดำเนินการมาตรการต่างๆ ด้วยความอดทน ทั้งป้องกันตนเอง และ ฉีดวัคซีน โดยตัวเลขผู้ป่วยหนัก 3,323 คน ผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ที่ 729 คน ซึ่งลดลงตามลำดับเช่นกัน ทั้งนี้กระทรวงจะพยายามลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตให้ได้มากที่สุด โดยมาตรการหนึ่งคือการฉีดวัคซีน

นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับแผนการฉีดวัคซีนโควิดเดือน ก.ย.มีวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาทั้งซิโนแวค แอสตร้าฯ ไฟเซอร์ทั้งหมด 16 ล้านโดส และยังมีวัคซีนทางเลือก อย่างซิโนฟาร์มอีก 10 ล้านโดส ทำให้ยอดผู้ฉีดวัคซีนค่อนข้างมาก และในเดือน ต.ค.จะมีซิโนแวคอย่างน้อย 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 10 ล้านโดส ไฟเซอร์ 8 ล้านโดส ทำให้ยอดรวมวัคซีนที่รัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุขจัดหาอย่างน้อย 24 ล้านโดส และซิโนฟาร์มอย่างน้อย 6 ล้านโดส ดังนั้น เดือน ต.ค.จะเป็นเดือนที่มีการฉีดวัคซีนแบบก้าวกระโดด

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ที่เป็นซิโนแวคเข็ม 1 และแอสตร้าฯ เข็ม 2 ทำให้เราสามารถฉีดวัคซีนเข็ม 2 มากขึ้น โดยสิ้นเดือน ก.ย. สามารถฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 อยู่ที่ 32 ล้านคน หรือคิดเป็น 45% ส่วนเข็ม 2 ฉีดได้ 18 ล้านคน หรือ 25% แต่หลังจากเดือน ต.ค. พ.ย. ธ.ค. เป็นต้นไปการฉีดจะก้าวกระโดด อย่างสิ้นเดือนต.ค. จะครอบคลุมฉีดเข็ม 1 อย่างน้อย 41 ล้านคน หรือ 58 % ของประชากรคนไทยที่อยู่ในแผ่นดินไทย และเดือน พ.ย. ฉีดสะสมให้คนที่อยู่ในแผ่นดินไทย 50 ล้านคน หรือ 71% และสิ้นเดือน ธ.ค.เข็มที่ 1 ฉีดสะสม 60 ล้านคน หรือ 85% ของประชากร ส่วนเข็มที่ 2 สิ้นเดือน ก.ย.ฉีดได้สะสม 18 ล้านคน หรือ 25% ขณะที่สิ้นเดือน ต.ค.ฉีดได้สะสม 30 ล้านคน หรือ 45% สิ้นเดือน พ.ย.ฉีดได้ 42 ล้านคน หรือ 60% และ สิ้นเดือน ธ.ค.ฉีดสะสม 52 ล้านคน หรือ 74% ส่วนเข็มที่ 3 เริ่มฉีดปลาย ก.ย.เมื่อถึงสิ้น ธ.ค. คาดว่าจะฉีดได้สะสม 7 ล้านโดส ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ตัวเลขที่วางไว้จะเกินเป้าหมาย หากฉีดได้ตามที่วางแผน จะทำให้สถานการณ์การติดเชื้อและเสียชีวิตลดน้อยลง และกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

“ส่วนเข็ม 3 เข็มกระตุ้นนั้น เนื่องจากวัคซีนที่ฉีดเป็นวัคซีนใหม่ สิ่งที่ยังไม่ค่อยรู้ คือ หลังจากฉีดแล้วภูมิคุ้มกันลดลงเมื่อไหร่ เพราะทุกชนิดเมื่อฉีดแล้ว ภูมิฯจะลดลง จึงเป็นอีกมาตรการที่สำคัญ โดยคนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มไปแล้วในเดือน มี.ค. เม.ย.พ.ค. และมิ.ย. ทางกระทรวงฯ จะแจ้งให้ท่านเข้ามาฉีดเข็ม 3 โดยจะนำเรียนเป็นระยะตามช่องทางต่างๆ ขอให้ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง” นพ.โอภาส กล่าว