ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ศบค.เผยยอดป่วยโควิดไทยยังแตะเส้น 1 หมื่นราย เสียชีวิต 77 ราย  พร้อมเปิดจังหวัดไหนฉีดวัคซีนตามเป้า พบ 7 จว.ฉีดผู้สูงอายุครอบคลุม 70% 

 

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ศบค.เผยแพร่รายงานสถานการณ์โควิด -19 ว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 235,417,062 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 349,742 ราย เสียชีวิตสะสม 4,811,567 ราย เสียชีวิตรายใหม่  5,690 ราย อัตราการเสียชีวิตคิดเป็น 2.04% ประเทศที่มีการติดเชื้อสูงสุดคือสหรัฐอเมริกา ติดเชื้อสะสม 44,490,897 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 46,482 ราย เสียชีวิตสะสม 719,674 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 690 ราย อินเดีย ติดเชื้อสะสม 33,812,559 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 23,161 ราย เสียชีวิตสะสม 448,846 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 241 ราย บราซิล ติดเชื้อสะสม 21,459,117 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 13,466 ราย เสียชีวิตสะสม 597,749 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 457 ราย สหราชอาณาจักร ติดเชื้อสะสม 7,871,014 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 30,301 ราย เสียชีวิตสะสม 136,910 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 121 ราย และรัสเซีย ติดเชื้อสะสม 7,560,767 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 25,219 ราย เสียชีวิตสะสม 209,028 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 886 ราย 

 

ส่วนประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 27 มีผู้ติดเชื้อสะสม 1,637,432 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 10,828 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและบริการ 9,940 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 770 ราย จากเรือนจำ 104 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 14 ราย (อิตาลี, สหรัฐ, ฝรั่งเศส, กาตาร์, มาเลเซีย ประเทศละ 1 ราย กัมพูชา 8 รายผ่านช่องทางธรรมชาติ และเมียนมา 1 รายผ่านช่องทางธรรมชาติ) ส่วนอัตราการเสียชีวิตสะสม 17,017 ราย และเสียชีวิตรายใหม่ 77 ราย วันนี้มีผู้รักษาหาย 11,894ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 63 1,508,167 ราย ยังอยู่ระหว่างการรักษา 112,251 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยรักษาอยู่ ใน รพ. 38,664 ราย รพ.สนามและอื่นๆ 73,587 ราย อาการหนัก 3,074 ราย ในจำนวนนี้ใส่เครื่องช่วยหายใจ 712 ราย  

 

ทั้งนี้ 10 จังหวัดที่มีการติดเชื้อรายใหม่สูงสุดคือ กทม. 1,211 ราย ยะลา 783 ราย สมุทรปราการ 760 ราย ชลบุรี 643 รายระยอง 533 ราย นราธิวาส 442 ราย ปัตตานี 412 ราย นครศรีธรรมราช 378 ราย ปราจีนบุรี 362 ราย และ สงขลา 353 ราย 

ส่วนรายละเอียดผู้เสียชีวิต เป็น ชาย 42 ราย หญิง 35 ราย โดยเป็นคนไทย 75 ราย เมียนมา 2 ราย ทั้งนี้เป็นผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 62 ราย คิดเป็น 81% อายุน้อยกว่า 60 ปี  มีโรคเรื้อรัง 8 ราย คิดเป็น 10% ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 7 ราย คิดเป็น 9% เมื่อจำแนกตามพื้นที่พบว่า อยู่ในกทม. 20 ราย สมุทรปราการ 8 ราย สมุทรสาคร 2 ราย นครปฐม 2 ราย นนทบุรี 1 ราย  ปทุมธานี 1 ราย นครราชสีมา 5 ราย หนองบัวลำภู 1 ราย อุดรธานี 1 ราย อุบลราชธานี 1 ราย นครสวรรค์ 2 ราย ตาก 1 ราย  สุโขทัย 1 ราย นครศรีธรรมราช 5 ราย กระบี่ 2ราย นราธิวาส 2 ราย ภูเก็ต 1 ราย ยะลา 1 ราย สงขลา 1 ราย ชลบุรี 4 ราย ระยอง 4 ราย  ปราจีนบุรี 3 ราย ลพบุรี 2 ราย อ่างทอง 1 ราย สระบุรี 1 ราย สิงห์บุรี 1 ราย ราชบุรี 1 ราย  พระนครศรีอยุธยา 1 ราย และ สระแก้ว 1 ราย 

 

สำหรับยอดการฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 2564-2 ต.ค.2564 ฉีดแล้วจำนวน 54,869,411 โดส แบ่งเป็นเข็ม 1 จำนวน 32,904,750 ราย คิดเป็น 45.7% เข็ม 2 จำนวน 20,531,903 ราย คิดเป็น 28.5% และเข็ม 3 จำนวน 1,432,758 ราย คิดเป็น 2.0% เมื่อจำแนกเป็นรายพื้นที่ พบว่าจังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรตั้งแต่ 40-49% ประกอบด้วย นครปฐม ยะลา สงขลา ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ระยอง สิงห์บุรี สระบุรี บุรีรัมย์ สุราษฎร์ธานี ตรัง ตราด

 

ส่วนจังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากกว่า 50% ประกอบด้วย กทม. ปทุมธานีสมุทรสาคร สมุทรปราการ นนทบุรี อยุธยา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครนายก พังงา ภูเก็ต ระนอง 

 

ส่วนอัตราการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรผู้สูงอายุตั้งแต่ 50-69% ประกอบด้วย สมุทรปราการ นนทบุรี นครปฐม ยะลา สงขลา นราธิวาส นครนายก อยุธยา สิงห์บุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ปราจีนบุรี ระยอง เพชรบูรณ์ เพชรบุรีนครราชสีมา เชียงราย น่าน เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์พิจิตร จันทบุรี ตราด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ ยโสธร อ านาจเจริญ กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ตรัง พัทลุง สตูล เชียงใหม่ จันทบุรี อุดรธานี ศรีสะเกษ อุบลราชธานีสุรินทร์ นครสวรรค์ ก าแพงเพชร ขอนแก่น ขณะที่จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุได้มากกว่า 70% มี 7 จังหวัดประกอบด้วย กรุงเทพ ปทุมธานี สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา พังงา ภูเก็ต และระนอง