ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมการแพทย์เผยไทยเตรียมพร้อมเซนสัญญานำเข้ายาโควิด19 “ยาโมลนูพิราเวียร์” หาก อย. สหรัฐขึ้นทะเบียนยา พร้อมเดินหน้า อธิบดีฯ เผย สธ.ร่างสัญญารอจัดซื้อ 2 แสนชุด หากทุกอย่างผ่าน! คาดเข้าไทยปลาย พ.ย.64 ส่วนจะใช้ทดแทนยาฟาวิพิราเวียร์หรือไม่ รอผู้เชี่ยวชาญพิจารณา

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2564 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการติดตามเรื่องการพัฒนายารักษาโรคโควิด -19 ในหลายตัว รวมถึงยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) ด้วย มีการเจรจากันอยู่ตลอด ซึ่งล่าสุดผลการศึกษาระยะที่ 3 ของยาดังกล่าวได้ผลดี อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานอาหารและยาสหรัฐอเมริกา หากขึ้นทะเบียนกับทางอย. สหรัฐฯ แล้ว เบื้องต้นจากการเจรจรากันก่อนหน้านี้ทางผู้ผลิตจะมีการจัดยาสำหรับการรักษาผู้ป่วยจำนวน 2 แสนคน ให้กับประเทศไทย ขณะนี้กรมการแพทย์อยู่ระหว่างการร่างสัญญาซื้อขาย คาดว่าจะแล้วเสร็จในสัปดาห์นี้

นพ.สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากบริษัทจะขึ้นทะเบียนกับอย.สหรัฐฯ ได้แล้ว ยังต้องมีการมาขึ้นทะเบียนนำเข้ายาดังกล่าวกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไทยด้วย อาจจะเป็นปลายเดือนนี้ หรือต้นเดือนหน้า จึงคาดการณ์ว่ายาโมลนูพิราเวียร์ น่าจะมาปลายเดือนพ.ย. หรือต้นเดือน ธ.ค. 2564 ส่วนเรื่องราคานั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากมีการเซ็นสัญญาไม่เปิดเผยข้อมูลกันเอาไว้ เพราะเป็นข้อมูลที่มีผลต่อการขายในแต่ละประเทศ ซึ่งไม่เท่ากัน

“สัญญานี้จะมีผลต่อเมื่อ อย.สหรัฐฯ ขึ้นทะเบียน หากไม่ขึ้นทะเบียนให้ใช้ฉุกเฉินก็ถือว่าสัญญานี้เป็นโมฆะ แต่เราพูดคุยและติดตามกันมาตลอด สัญญาน่าจะเสร็จสัปดาห์นี้ พออย.สหรัฐขึ้นทะเบียนแล้วเราก็สามารถทำสัญญากันได้” นพ.สมศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าเมื่อนำยา Molnupiravir เข้ามาแล้วจะมีการใช้อย่างไร ช่วยเสริม หรือทดแทนยาฟาวิพิราเวียร์ นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญจะมีการหารือข้อสรุปกัน เพราะผลการศึกษาของยาเพิ่งออกมา ก็ต้องเอาข้อมูลไปให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณา และทบทวนข้อมูลทั้งหมด

เมื่อถามย้ำหลักการใช้ยาดังกล่าว นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ยาดังกล่าวจะใช้ในผู้ป่วยอาการน้อย อาการปานกลาง 1 คน ใช้ 40 เม็ด นาน 5 วันผู้ป่วย 1 คน ใช้ยา 40 เม็ด