ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สั่ง 10 จังหวัดเข้มมาตรการคุมโควิด หลังพบตัวเลขผู้ป่วยไม่ลด มอบกรมควบคุมโรคจัดทำรายละเอียดจังหวัด พร้อมมอบนโยบายรายพื้นที่เร่งดำเนินการควบคุม ขณะเดียวกันยังต้องระวังภาคใต้ ภาคตะวันออก

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2564 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อโควิดภาพรวมของประเทศไทย ว่า ลักษณะการติดเชื้อในปัจจุบันยังมีจำนวนค่อนข้างสูง แต่ที่ลดลง คือ กรุงเทพมหานคร เนื่องจากการฉีดวัคซีนค่อนข้างครอบคลุม และการเจ็บป่วยเสียชีวิตของผู้สูงอายุเริ่มลดลงตามลำดับ อย่างไรก็ตาม สถานกาณณ์ในต่างจังหวัดค่อนข้างทรงตัว ไม่ลดลง โดยจังหวัดรวม 71 จังหวัด แยกกับ 4 จังหวัดภาคใต้ เพื่อพิจารณาสถานการณ์จังหวัดที่ไม่ใช่ทางภาคใต้ แม้จะลดลง แต่ยังไม่ลงดีมากนัก ยังช้าๆ แสดงว่าบางจังหวัดยังติดเชื้อแอคทีฟอย่างต่อเนื่อง จึงให้ทางกรมควบคุมโรคแยกรายภาคจะเห็นว่า ภาคเหนือ ภาคอีสาน การติดเชื้ออยู่ในระดับต่ำ แต่ในภาคกลาง ภาคตะวันออกค่อนข้างสูงกว่าภาคอีสานกับภาคเหนื เช่นเดียวกับภาคใต้

“ดังนั้น ที่ต้องโฟกัส คือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคกลางบางแห่ง ซึ่งภาคกลางบางแห่งเลือกมาได้ 10 จังหวัด เรียกว่า วอชลิสต์ เป็นการจับตามอง โดย 10 จังหวัด ดังนี้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ราชบุรี ระยอง จันทบุรี นครราชสีมา นครศรีธรรมราช และตาก โดยจังหวัดเหล่านี้ติดเชื้อแบบไม่ยอมลง ต้องทบทวนสถานการณ์ประจำวันว่า ติดเชื้อที่ไหน ใครทำให้ติดเชื้อ เมื่อไหร่ สอบสวนโรคตามหลักระบาดวิทยา และให้ทางจังหวัดมีเป้าหมายว่า จะควบคุมการติดเชื้ออย่างไรที่คิดว่า จังหวัดจะทำได้ โดยมีระยะเวลาภายใน 1 เดือน ว่า จะทำตัวเลขลงมาได้เท่าไหร่ “ นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

ปลัด สธ.กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ก็ต้องทำตัวเลขว่า ปัจจุบันติดเชื้อประมาณนี้ จะทำมาตรการอะไร อย่างไร ทั้งมาตราการองค์กร มาตรการบุคคล จะทำอย่างไรให้ตัวเลขลดลง รวมทั้งมีมาตรการสาธารณสุข การใช้ชุดตรวจ ATK ให้เหมาะสม ขึ้นกับทางจังหวัดนั้นๆ ว่าจะทำอย่างไร ให้ประชาชาชนตรวจด้วยตัวเอง หรือเจ้าหน้าที่ไปตรวจ ซึ่งชุดตรวจ ATK อย่างโฮมยูส ก็ชาวบ้านตรวจเองได้ ซึ่งตรงนี้จะเป็นการตรวจคัดกรอง เพื่อดักจับ หากเจอเชื้อจะได้ควบคุมเชื้อได้ง่ายและรวดเร็ว นอกจากนี้ ต้องมีโควิดฟรีเซตติ้ง ให้กรมอนามัยดำเนินการ ทั้งร้านอาหาร สถานประกอบการ ห้างสรรพสินค้าต่างๆ หรือแม้แต่สถานที่ท่องเที่ยว อย่างเชียงคาน โดยใครจะเข้าไปก็อาจต้องเข้าข่ายโควิดฟรีเซตติ้ง รวมทั้งการครอบคลุมวัคซีนโควิด โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 เป็นต้น ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับสถานที่ด้วยว่า พื้นที่ไหนเสี่ยงอย่างไร และต้องใช้มาตรการอย่างไรด้วย

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org