ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัดสธ. เผยปัจจุบัน ศบค. อนุมัติวัคซีนสูตรไขว้ให้ใช้ได้รวม 3 สูตร มีก่อนหน้านี้ “ซิโนแวค+แอสตร้าฯ” ล่าสุดเพิ่มอีกเป็น“แอสตร้าฯ+ไฟเซอร์” และ “ซิโนแวค+ไฟเซอร์” โดยการปรับใช้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ส่วนในการประชุม ศบค. 14 ต.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบผู้ฉีดแอสตร้าฯครบ 2 เข็มเห็นชอบกระตุ้นเข็ม 3 ได้ แต่ห่างจากเข็มที่ 2 ราว 6 เดือน เป็นไปตามคำแนะนำกก.วิชาการฯ ให้กระตุ้นด้วยไฟเซอร์

เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 15 ต.ค.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงมติ ศบค. เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา กรณีการอนุมัติวัคซีนป้องกันโควิด-19 สูตรไขว้เพิ่ม ว่า คณะกรรมการวิชาการ กระทรวงสาธารณสุข เสนอให้ ศบค.พิจารณาอนุมัติวัคซีนสูตรไขว้ เพิ่มเติม 2 สูตร ได้แก่ 1.สูตรวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า กับวัคซีนไฟเซอร์ ระยะห่าง 4-12 สัปดาห์ และ 2.สูตรวัคซีนซิโนแวคกับวัคซีนไฟเซอร์ ระยะห่าง 3-4 สัปดาห์ ทั้งนี้ การนำไปใช้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ได้มีการจัดหา การบริหารจัดการก็จะต้องให้สอดคล้องกับวัคซีนที่มี เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยการให้วัคซีนนั้นเป็นหน้าที่ของสถานบริการนั้นๆ เป็นผู้จัดให้เหมาะสมต่อไป

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ศบค. ได้เคยอนุมัติสูตรไขว้ คือ วัคซีนซิโนแวคกับวัคซีนแอสตราเซเนกา ระยะห่าง 3-4 สัปดาห์ที่มีการใช้อยู่ในปัจจุบัน นับว่า ศบค.อนุมัติสูตรไขว้แล้ว รวม 3 สูตร ที่สามารถใช้ได้ และการจะฉีดให้กับประชาชนนั้น เป็นการบริหารจัดการตามสถานการณ์และตามจำนวนวัคซีนที่มีอยู่ในขณะนั้นๆ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ วัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาให้นั้นใช้ได้ดีทุกตัว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเห็นชอบให้มีการฉีดเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 ในผู้ที่ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าครบ 2 เข็มด้วย นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ใช่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมศบค.วันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา มีการเห็นชอบเป้าหมายในการฉีดวัคซีนในเดือน พ.ย.จำนวน 25 ล้านโดส ครอบคลุมประชากรอย่างน้อย 70% ทุกจังหวัด โดยแต่ละจังหวัดจัดสรรให้เพิ่มความครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ 80 % วัคซีนในเด็ก 12-17 ปีได้รับเข็มที่ 1 อย่างน้อย 70% ส่วนการฉีดเข็มกระตุ้นให้ในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตายครบ 2 เข็ม ในผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าครบ 2 เข็ม ห่างจากเข็มที่ 2 ราว 6 เดือน โดยตามคำแนะนำของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2564 ให้กระตุ้นด้วยไฟเซอร์

ทั้งนี้ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข้ามาประเทศไทยล็อตแรกเมื่อเดือน ก.พ. 2564 จำนวน 1.2 แสน โดส โดยกลุ่มเป้าหมายที่ฉีดในช่วงเวลาดังกล่าว คือ ผู้มีอายุ 60 ขึ้นไป กลุ่มที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการสัมผัสโรค ซึ่งจะเป็นผู้ที่ฉีดเข็ม 2 ปะมาณ เดือน มิ.ย. 2564 ดังนั้น เมื่อถึงเดือนพ.ย.เท่ากับมีการฉีดเข็มที่ 2 มาแล้วราว 5-6 เดือน

 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : ศิริราชเปิดผลศึกษาวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันเข็ม 3 ทั้ง “แอสตร้าฯ-ไฟเซอร์”

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org