ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผู้บริหาร สธ.รับทราบปมบุคลากรสาธารณสุข รพ.อุดรธานี เรียกร้องค่าเสี่ยงภัย-ขึ้นเงินเดือน 1 เปอร์เซ็นต์ ด้านผู้ตรวจฯ เผยหากใครเข้าเกณฑ์แต่ไม่ได้ทำเรื่องอุทธรณ์ขึ้นมา สามารถดำเนินการตามขั้นตอน

ตามที่พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขโรงพยาบาลอุดรธานี ออกมาชูป้ายประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรม หลังปฏิบัติงานช่วยเรื่องโควิด19 แต่ยังไม่ได้รับเงินค่าเสี่ยงภัยโควิด19 และไม่ได้การปรับขึ้นเงินเดือน 1 เปอร์เซ็นต์ โดยได้ทำหนังสือร้องไปถึงศูนย์ดำรงธรรม ป.ป.ช.จังหวัดอุดรธานี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี และเขตสุขภาพที่ 8 นั้น

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)

ความคืบหน้าเรื่องนี้วันที่ 19 ต.ค.2564 นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)  ให้สัมภาษณ์ Hfocus ถึงเรื่องนี้ว่า รับทราบเรื่องนี้แล้ว ขณะนี้ได้มอบหมายให้ทางผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 8 ซึ่งดูแลพื้นที่จ.อุดรธานี ร่วมกับทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(นพ.สสจ.)อุดรธานี ไปติดตามตรวจสอบและทำเรื่องรายละเอียดขึ้นมา เบื้องต้นตนได้ส่งเรื่องให้ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแล้ว

“ปัญหาไม่ได้มาจากทางส่วนกลาง เนื่องจากทางเราได้ให้พื้นที่ส่งหลักเกณฑ์การพิจารณาต่างๆ มาให้ในเรื่องการพิจารณาการจ่ายเงินต่างๆ อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้น่าจะมาจากการพิจารณาเลือกผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งอยู่ที่พื้นที่ ก็ต้องไปพิจารณาเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ กำลังติดตามเรื่องนี้” นพ.สุระ กล่าว

ด้าน นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 กล่าวว่า ขณะนี้รับทราบเรื่องแล้ว โดยหลักการงบประมาณเงินค่าเสี่ยงภัย หรือการเพิ่มเงินเดือน 1 เปอร์เซ็นต์ เป็นงบที่ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรให้ตั้งแต่ช่วงโควิดระบาดรอบแรก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางผอ.รพ.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลว่า มีผู้ปฏิบัติงานคนไหนที่เข้าตามหลักเกณฑ์ได้รับค่าเสี่ยงภัยก็สามารถอุทธรณ์ เพื่อดำเนินการขอรับเงินค่าเสี่ยงภัยตรงนี้ หากงบไม่พอก็ต้องมีการดำเนินการขอรัฐบาลเพื่อพิจารณางบประมาณเพิ่มเติมต่อไป ส่วนเงินเพิ่ม 1 เปอร์เซ็นต์ก็ต้องมาพิจารณาตามหลักเกณฑ์เช่นกัน

นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8

 

ข่าวเกี่ยวข้อง : “อนุทิน” รับเรื่องบุคลากรรพ.อุดรธานี ไม่ได้รับค่าเสี่ยงภัย มอบปลัดสธ. ติดตาม

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org