ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สภานิติบัญญัติฮ่องกง ลงมติเป็นเอกฉันท์ ผ่านกฎหมายห้ามนำเข้า จำหน่าย ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบ พร้อมคว่ำร่างแก้ไขกม.อนุญาตขนส่งบุหรี่ไฟฟ้าผ่านแดน และนำเข้าเพื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม หนำซ้ำขยายผลบังคับใช้กฎหมายห้ามโฆษณาครอบคลุมบุหรี่ไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2564 ดร.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา สภานิติบัญญัติฮ่องกง ลงมติเป็นเอกฉันท์ 32 ต่อ 3 เสียง และงดออกเสียง 2 คน ผ่านกฎหมายห้ามนำเข้า ห้ามจำหน่าย และห้ามผลิตบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบทั้งแบบใช้น้ำยาและแบบให้ความร้อน นอกจากนี้ สภานิติบัญญัติฮ่องกง ยังโหวตคว่ำร่างขอการแก้ไขกฎหมายเพื่ออนุญาตให้มีการขนส่งบุหรี่ไฟฟ้าผ่านแดนและนำเข้าเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรม รวมทั้งมีการขยายผลการบังคับใช้กฎหมายห้ามโฆษณาผลิตภัณฑ์ยาสูบเดิมให้ครอบคลุมบุหรี่ไฟฟ้าด้วย

ดร.พญ.เริงฤดี กล่าวว่า การที่ฮ่องกงออกกฎหมายดังกล่าวนี้ถือเป็นความสำเร็จของฝ่ายรณรงค์เพื่อการควบคุมยาสูบและกลุ่มทำงานเพื่อการศึกษาในฮ่องกงที่ต้องการปกป้องเยาวชนไม่ใช้สิ่งเสพติดรูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งการผลักดันกฎหมายห้ามบุหรี่ไฟฟ้าในฮ่องกงเริ่มมีการเสนอกฎหมายครั้งแรกเมื่อปี 2558 หรือเมื่อ 6 ปีที่แล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนเมื่อปี 2561 ทางรัฐบาลมีแผนจะควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าโดยใช้กฎหมายควบคุมยาสูบทั่วไปเหมือนการควบคุมบุหรี่ธรรมดา แต่แผนดังกล่าวนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในหมู่นักวิชาการด้านการควบคุมยาสูบและการศึกษา จนทำให้นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ประกาศสนับสนุนให้มีการออกกฎหมายห้ามบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบเพื่อปกป้องเยาวชน ซึ่งนำไปสู่การเสนอกฎหมายเพื่อพิจารณาอีกครั้งในปี 2562

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ฮ่องกงมีประวัติศาสตร์การควบคุมยาสูบที่ยาวนาน โดยฮ่องกงมีกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะตั้งแต่ปี 2525 และมีกฎหมายให้ตั้งหน่วยงานด้านการควบคุมยาสูบหรือ Hong Kong Council on Smoking and Health (COSH) ตั้งแต่ปี 2530 โดยกำหนดให้เป็นหน่วยงานอิสระภายใต้กระทรวงสาธารณสุขฮ่องกงและรัฐบาลจัดงบประมาณสนับสนุนต่อเนื่องทุกปี มีบทบาทการทำงาน 4 ด้านได้แก่ ด้านกฎหมาย ด้านการศึกษา ด้านชุมชน และด้านข้อมูลงานวิจัย นอกจากนี้ฮ่องกงยังได้มีการจัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมาสำหรับบังคับใช้กฎหมายควบคุมยาสูบโดยเฉพาะ มีอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 100 คน เพื่อแก้ไขปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่ได้ผลในอดีต

“การควบคุมยาสูบของฮ่องกงถือว่าประสบความสำเร็จจากการที่ฮ่องกงมีอัตราการสูบบุหรี่ในประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปลดลงจาก 20% เมื่อปี 2523 เหลือเพียง 10.2% หรือ 638,000 คน ในปัจจุบัน โดยรัฐบาลฮ่องกงกำหนดเป้าหมายว่า ต้องการลดอัตราการสูบบุหรี่ลงอีกให้เหลือเพียง 7.8% ภายในปี 2568 ซึ่งการประกาศห้ามบุหรี่ไฟฟ้าทุกรูปแบบของฮ่องกงในครั้งนี้น่าจะทำให้ฮ่องกงบรรลุเป้าหมายการลดอัตราการสูบบุหรี่และปกป้องเยาวชนไม่ให้เริ่มเข้าสู่การเสพติดบุหรี่” ศ.นพ.ประกิต กล่าว

อ้างอิง

Hong Kong bans sale of e-cigarettes and other heated tobacco products but personal use still allowed: https://www.scmp.com/news/hong-kong/politics/article/3153176/hong-kong-bans-sale-e-cigarettes-and-other-heated-tobacco