ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

วันนี้ (11 พฤศจิกายน 2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามมณฑลกองทัพบกที่ 11 แจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี ระหว่างตรวจเยี่ยม นายอนุทิน กล่าวว่า ที่นี่คือต้นแบบของโรงพยาบาลสนาม ที่ตั้งขึ้นมาในช่วงหลัง โดยโรงพยาบาลแห่งนี้ มีความพร้อมในการรักษาผู้ป่วยตั้งแต่มีอาการเล็กน้อย ไปจนถึงผู้ป่วย ICU นับว่าเป็นสถานพยาบาลที่มีความครบวงจรอย่างยิ่ง เพราะสามารถตรวจคัดกรองกำลังพลได้ด้วย สำหรับโรงพยาบาลสนามยังจะดำเนินการต่อไปเรื่อย ๆ แม้คนไข้จะลดลงตามสถานการณ์ แต่การระบาดยังไม่หมด ยังต้องเตรียมความพร้อมไว้

“งานกระทง สามารถจัดได้ แต่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการโรคติดต่อแต่ละจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน จะพิจารณา แต่การจัดงานก็ต้องอยู่ภายใต้มาตรการสาธารณสุขและความปลอดภัย  ขอให้ยึดเรื่องนี้เป็นสำคัญ” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามถึงการพบรายงานผู้ติดเชื้อ ในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว(สีฟ้า) นายอนุทิน ตอบว่า กำลังเร่งส่งวัคซีนไปให้เพียงพอกับความต้องการ และสถานการณ์ ซึ่งตอนนี้ฉีดไปแล้ว 85 ล้านโดส ถือว่าวัคซีนได้ผล เห็นได้จากผู้เสียชีวิตลดลงต่อเนื่องเกินกว่าสัปดาห์แล้ว 

ขอย้ำว่า วัคซีนที่ทางการจัดหามาบริการ มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ป้องกันการป่วยหนัก และเสียชีวิตได้ ขอให้ประชาชนมั่นใจและมารับวัคซีน ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ไปจนถึงผู้นำชุมชน ที่ช่วยเป็นปากเป็นเสียง รณรงค์ ให้ประชาชนมาฉีด ตนเคยลงพื้นที่ไปยังจังหวัดภาคเหนือ พบว่า ผู้สูงวัยที่ฉีดวัคซีน แม้จะติดโรค ก็ไม่ป่วย และไม่เสียชีวิต นี่คือ ตัวอย่างของความจำเป็นที่ประชาชนต้องมารับวัคซีน วันนี้ เราทยอยฉีดบูสเตอร์โดสแล้ว เริ่มจากผู้ได้รับซิโนแวค ซิโนฟาร์ม 2 เข็ม จากนั้น เราจะฉีดให้ผู้ที่ได้รับแอสตร้าฯ 2 เข็ม ปีหน้า จะเป็นปีแห่งการฉีดเข็มบูสเตอร์

จากนั้น นายอนุทิน ได้เปิดเผยความคืบหน้า กรณีที่ทางการสหรัฐฯ จะมอบวัคซีนโมเดอร์นา ให้ไทย ว่า ตามรายงาน สัปดาห์หน้า วัคซีนของโมเดอร์นา จะมาถึงไทย 1 ล้านโดส และในอาทิตย์นี้ จะมีวัคซีนสนับสนุนจากประเทศจีน คือ  ซิโนแวค เข้ามา 1.5 ล้านโดส 

สำหรับแผนการกระจายวัคซีนโมเดอร์นา ทางกรมควบคุมโรค จะจัดสรรการฉีดตามความเหมาะสม เนื่องจากปัจจุบันนี้ ทั่วโลกเริ่มเปิดการเดินทางแล้ว และบางประเทศมีเงื่อนไขเรื่องการได้รับวัคซีน เราก็ต้องสำรองวัคซีน เอาไว้ให้บริการกับผู้ที่มีความจำเป็นต้องฉีด เช่น กรณีที่ไปเรียนไปศึกษาต่อ หรือไปดำเนินธุรกิจ